นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม 4 จุด ในอำเภอคลองขลุง และอำเภอขาณุวรลักษบุรี เพื่อรับทราบปัญหาและเร่งประสานแผนงาน ผลักดันงบประมาณจากทุกภาคส่วน ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี นายเอกชัย คำธานี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกำแพงเพชร นายไพทูล ปันชื่น ผู้อำนวยการส่วนสนับสนุนทรัพยากรกู้ภัย ศูนย์ ปภ. เขต 8 นายธนดล วงษ์ขันธ์ เกษตรจังหวัดกำแพงเพชร นางสาวชนกนันท์ สอาด นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกำแพงเพชร นายอนันต์ โฆษิตพิพัฒน์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร นายคณาทิ อ่อนน้อม โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกำแพงเพชร นางสาวขวัญสิริ บุญเกิด ป้องกันจังหวัดกำแพงเพชร นายคณิตศร ทองรักษ์ ผอ.กลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลการพัฒนาจังหวัด สนง.จังหวัดกำแพงเพชร และผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมลงพื้นที่อย่างใกล้ชิด

คณะผู้ว่าฯ ได้ลงพื้นที่บริเวณสะพานคลองนา หมู่ 4 และจุดเลียบคลองนา หมู่ 6 ต.หัวถนน อ.คลองขลุง โดยมี นายสิทธิชัย ณ รังษี ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองผู้แทนนายอำเภอคลองขลุง พร้อมด้วย นายสิงหา พงษ์สกัด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวถนน คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ พนักงานและเจ้าหน้าที่ และชาวนาในพื้นที่ร่วมต้อนรับและนำเสนอข้อมูลปัญหา โดยพบว่าสภาพพื้นที่คลองนาส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ รองรับน้ำจากตอนบน ทำให้คลองนาซึ่งมีคันคลองต่ำและวัชพืชขึ้นปกคลุมมาก เกิดน้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนในพื้นที่ต่ำบางส่วน องค์การบริหารส่วนตำบลหัวถนน จึงได้เสนอให้ขุดลอกคลองและปรับคันคลองให้สูงขึ้น และขณะนี้โครงการชลประทานกำแพงเพชรอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่เพื่อประกาศเขตทางน้ำ

จากนั้น คณะได้เดินทางต่อไปยังจุดลำคลอง 2L-MC หมู่ 6 และจุดฝายหมอนวล หมู่ 5 ต.โค้งไผ่ อ.ขาณุวรลักษบุรี เพื่อรับฟังการรายงานของ นายประพัฒน์ อ่อนฤทธิ์ รองนายก อบต.โค้งไผ่ พร้อมด้วย สมาชิกสภาฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวนาในพื้นที่ พบปัญหาท่อระบายน้ำขนาดเล็ก ทำให้น้ำระบายช้าและเอ่อล้นท่วมพื้นที่เกษตร โดยกรมชลประทานได้บรรจุโครงการก่อสร้างโรงระบายน้ำไว้ในแผนปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนบูรณาการการทำงานร่วมกัน ประสานแผนงานและงบประมาณตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้จังหวัดได้สรุปข้อมูลทั้งหมดนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป