นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เ เปิดเผยหลังป็นประธานพิธีปล่อยตัวหน่วยเคลื่อนที่เร็ว “ALRO FORCE” เพื่อเร่งรัดการออกโฉนดเพื่อการเกษตรในเขตปฏิรูป ว่า  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังคงเดินหน้านโยบายสำคัญของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ศ.ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์) อีกทั้งสานต่อนโยบายของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า) ในการปรับปรุงและพัฒนาสิทธิในที่ดินของรัฐของ ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ให้บรรลุตามเป้าหมายวางไว้ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินนโยบายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ส.ป.ก.  จึงจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว “ALRO FORCE” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเร่งรัดในการดำเนินการตอบสนองภารกิจสำคัญของ ส.ป.ก. ในการปรับปรุงและยกระดับเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน มีสิทธิในที่ดินอย่างมั่นคง สามารถใช้เป็นหลักประกัน เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนและต่อยอดการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระยะยาว โดยจะทำการลงพื้นที่เข้าปฏิบัติภารกิจในทั่วทุกจังหวัด โดยมีจังหวัดนำร่อง 3 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา อุบลราชธานี และสระแก้ว

“จังหวัดแรกที่หน่วย ALRO FORCE จะลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจ คือ จ.อุบลราชธานี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีเป้าหมายการออกโฉนดเพื่อการเกษตรจำนวนมากที่สุด ประมาณ 70,000 กว่าฉบับ โดย ALRO FORCE จะเข้าไปเสริมทัพเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานร่วมกัน ช่วยเร่งรัดทำโฉนดเพื่อการเกษตร รวมทั้งแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทุกจุด เพิ่มประสิทธิภาพให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ขอยืนยันว่าเรากำลังเร่งรัดอย่างเต็มที่ เพื่อให้นโยบายบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จเร็วยิ่งขึ้น โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่หน่วยทำงานอย่างรวดเร็ว โปร่งใส ใส่ใจเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” รมช.อิทธิ กล่าวย้ำ

นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการ ส.ป.ก.  กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ “ALRO FORCE” เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ที่แสดงถึงพลัง (Force) ความเป็นหนึ่งเดียว (Organization) ความรับผิดชอบ (Responsibility) ความร่วมมือ (Collaboration) และประสิทธิภาพ (Efficiency) ของบุคลากร ส.ป.ก. ของส่วนกลาง ที่ร่วมกันในการแก้ไขสถานการณ์ที่ต้องการกำลังคนและความรวดเร็วในการปฏิบัติภารกิจของ ส.ป.ก. เป็นพลังในการขับเคลื่อนที่ภารกิจที่สำคัญนี้ โดยจะทำการลงพื้นที่ปฏิบัติงานด้วยหัวใจที่ยึดถือประโยชน์ของเกษตรกรเป็นสำคัญ และยึดหลักการปฏิบัติงาน 4 ประการ ดังนี้ 1. ยึดหลักกฎหมาย และแนวนโยบายของ ส.ป.ก. เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด 2. ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใสและตรวจสอบได้ 3. ปฏิบัติงานด้วยความสุภาพ อดทน ใส่ใจความเดือนร้อนของเกษตรกร และ 4. มีวินัย ตรงต่อเวลา ปฏิบัติงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ