เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิทธิพล อิงประสาร ผอ.เขตปทุมวัน กล่าวถึงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่เขตปทุมวันว่า ในช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาได้ลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยกันแลกเปลี่ยนฉันมิตร ระหว่าง เขตเฉาหยาง เทศบาลกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน กับ กรุงเทพมหานคร ราชอาณาจักรไทย โดยสำนักงานเขตปทุมวัน เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือฉันมิตร ระหว่างสองเขตให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ตลอดจนเสริมสร้างความเข้าใจและมิตรภาพร่วมกัน ด้วยความมุ่งมั่นในการดำเนินการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศ เช่น เศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วัฒนธรรม การศึกษา การท่องเที่ยว การบริหารจัดการเมือง ฯลฯ ในทุกระดับ และในรูปแบบที่หลากหลาย ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน บนพื้นฐานความเท่าเทียมและผลประโยชน์ร่วมกัน
“ ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวในพื้นที่ ก็มีการพูดคุยรวมทั้งจะมีการนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่เชื่อมต่อเส้นทางท่องเที่ยวอื่นในกทม. เพื่อสร้างเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ก่อนที่จะให้ตัวแทนของเขตไปเชิญชวนให้คนจาก เขตเฉาหยาง เทศบาลกรุงปักกิ่ง เดินทางมาเที่ยวกทม. เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวย่านบรรทัดทองอีกทางหนึ่ง หากมองภาพรวมแล้วนักท่องเที่ยวจีนอาจจะมีลดลง แต่คนไทยยังเท่าเดิม ร้านอาหารยอดฮิต เช่น ร้านทาร์ตไข่ ร้านอาหารอีสาน ร้านขนมหวาน ร้านขนมปัง เป็นต้น ก็ยังมีลูกค้า แต่เมนูยอดฮิตสำหรับชาวจีนอาจจะมียอดขายน้อยลงตามสัดส่วนของนักท่องเที่ยว แต่เชื่อว่าไม่นานก็จะกลับมาคึกคัก”
ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงเนื่องมาจาก กทม.มีการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย จึงทำให้เสนห์ของสตรีทฟู๊ดซึ่งถือเป็นกมมิคอีกอย่างหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวนั้น ผอ.เขตปทุมวัน ชี้แจงว่า
บางครั้งการขายของบนทางเท้าก็ส่งผลกระทบต่อผู้สัญจรบนทางเท้า ที่เดินไม่สะดวกและไม่ปลอดภัยเพราะบางจุดต้องลงไปเดินบนถนน ดังนั้นการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ถือเป็นนโยบายที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนเดินเท้า สามารถสัญจรบนทางเท้าได้ปลอดภัยด้วย จึงอยากให้มองในมิติด้านความปลอดภัยด้วย
ส่วนร้านอาหารต่างๆที่เคยเป็นแผงลอย ก็ย้ายไปอยู่ในตึก หรืออาคาร ที่อยู่ในซอยจุฬา 3 จุฬา5 ซึ่งเป็นร้านค้าในย่านบรรทัดทองด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับเรื่องราคาอาหารย่านบรรทัดทองที่มีการวิจารณ์ว่า มีราคาสูงนั้น ผอ.เขตปทุมวัน ระบุว่า ในส่วนของราคาอาหารเชื่อว่าเป็นไปตามกลไกของตลาดตามค่าใช้จ่ายต่างๆของร้าน .
ขอบคุณภาพ เฟซบุ๊ก สำนักงานเขตปทุมวัน
