เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน​ กล่าวถึงสถานการณ์การค้าชายแดน ไทย-กัมพูชา​ ว่า​ ทางฝั่งกัมพูชามีการคุมการทั้งหมด หากเหตุการณ์ปิดด่านจริงๆ​ อย่าหวั่นไหวหรือสั่นคลอน​ เพราะทางฝั่งไทย​ มีสรรพกำลัง​ มีเม็ดเงิน​ มีสายป่านที่ยาวกว่า เพียงแต่ว่ารัฐบาล​จะต้องแสดงเจตจำนงต่อผู้ประกอบการทางฝ่ายไทยว่า​ ยินดีที่จะเยียวยาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น​ จากการปิดด่าน​ หากทำแบบนี้​ได้​ เสียงบ่นหรือเสียงต่อต้านจากพื้นที่ก็จะน้อยลง หรือหากต้องมีกลไก​อื่นเข้าไปช่วยเหลือเรื่องแรงงานต่างชาติขาดแคลน​ ควรจะมีการผ่อนปรน MOU ชั่วคราว เพื่อที่จะช่วยล้งผลไม้หรือสวนผลไม้​ เราเตรียมทางออกเรื่องนี้​ได้ หากเตรียมพร้อมมากพอ​

เมื่อถามว่าตัวเม็ดเงิน เรามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ​ น.ส.ศิริกัญญา​ กล่าวว่า​ หากพูดเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ งบ 157,000 ล้าน อาจจะมองว่ามีคนจับจ้องแล้ว​ แต่จริงๆ ตอนนี้งบกลางยังเหลืออยู่เกือบ 60,000 ล้าน ตัวเลขล่าสุดทางสำนักงบประมาณยังไม่ได้ส่งมา แต่ก็จะพบว่าการเบิกจ่ายหรือใช้จ่ายมันยังไม่เต็มส่วนที่สภาอนุมัติไป เกือบแสนล้านบาท​ จึงมองว่าน่าจะมีเม็ดเงินเพียงพอ แต่มันเป็นเรื่องที่ต้องโชว์เจตจำนง มิฉะนั้นความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่บริเวณด่าน อาจจะเกิดกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ยืนยันว่า​ สามารถรับมือเรื่องนี้ได้ถ้าเราเตรียมความพร้อมมากพอ และถ้าวัดสายป่านกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ก็คิดว่าทางฝั่งไทย มีสายป่านยาวกว่าแน่ๆ และคิดว่าผลกระทบทางฝั่งนู้นน่าจะมากกว่าฝั่งไทย ถึงแม้จะสามารถหาสินค้าอะไรทดแทนได้ แต่เรื่องของแรงงานข้ามชาติ ที่จะหางานทดแทนกันได้ง่ายๆ

ส่วนที่สมเด็จฮุน เซน​ เปลี่ยนจากการที่ไม่รับสินค้าไทยเลย​ มาไม่รับแค่ผัก-ผลไม้ น.ส.ศิริกัญญา​ กล่าวว่า​ ต้องดูว่าจะเกิดเสียงต่อต้านมากน้อยแค่ไหน​ แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นชาวกัมพูชาเองที่จะกังวลกับผลกระทบที่เกิดขึ้น หากมีการปิดด่านอย่างถาวรทั้งหมด หรือไม่รับสินค้าไทยทั้งหมด​ เสียงจากประชาชน​จะส่งผ่านจนทำให้ท่าทีอ่อนลงเองตามอัตโนมัติ​ หากกระทบกับปากท้องของประชาชนเกินไป​ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไทยหรือกัมพูชา

เมื่อถามว่าจุดแข็งอะไรที่จะนำไปต่อรองกับกัมพูชาโดยที่ไม่ต้องใช้สงคราม​ น.ส.ศิริกัญญา​ กล่าวว่า​ เรื่องการค้าชายแดนและการแชร์สาธารณูปโภคต่างๆ​ อินเทอร์​เน็ต​ ไฟฟ้า​ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องทางเศรษฐกิจ​ ที่น่าจะมีน้ำหนัก​ ที่จะทำให้การเจรจาพูดคุยและท่าทีของกัมพูชาอ่อนลงได้ โดยที่ไม่ต้องใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร​.