ยังคงเป็นข่าวเศร้าของครอบครัวไม่น้อย สำหรับ “เก๋ไก๋-ณัฐธิชา นามวงษ์” หรือ เก๋ไก๋ สไลเดอร์ ยูทูบเบอร์นักแสดงชื่อดัง ที่ได้สูญเสีย “คุณพ่อมงคล แซ่จง” อายุ 57 ปี ไปอย่างกะทันหัน โดยนายมงคลได้เสียชีวิตอยู่ในบ้านพัก ใน จ.อำนาจเจริญ หลังบุรุษไปรษณีย์มาส่งพัสดุ 2 วัน ได้กลิ่นเหม็นโชยออกมา ขณะที่ เจ้าตัวทราบข่าวเศร้าเตรียมมารับศพไปบำเพ็ญกุศล ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (17 มิ.ย. 68) ณ ศาลา16 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 16.00 น. ได้มีการจัดพิธีรดน้ำศพคุณพ่อของเก๋ไก๋ ซึ่งภายในงานมีคนในครอบครัว บุคคลใกล้ชิด และคนบันเทิง-อินฟลูเอนเซอร์ อาทิ อาชิ อาชิตา, ซีน ภัสธรากรณ์, แบงค์ ปิยะวัฒน์, พลอย (ผู้จัดการเบลล่า), คุณแม่ปราณี แคมเปน (คุณแม่เบลล่า), ดิว ปิ่นกมล, ทนายเจมส์, หน่อง ธนา ฯลฯ ได้ร่วมเดินทางมาไว้อาลัยให้แด่คุณพ่อ รวมถึงส่งกำลังใจให้กับเก๋ไก๋และ “มาร์ค-กุลวัฒน์ แซ่จง”  พี่ชายของเก๋ไก๋อย่างมาก อีกทั้งพิธีสวดอภิธรรมของวันนี้ จะจัดขึ้นเวลาประมาณ 18.00 น. ในลำดับต่อไป โดยมีช่อง 3 เป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมในคืนแรก

ทั้งนี้หลังจากเสร็จพิธีรดน้ำศพคุณพ่อ ด้านเก๋ไก๋ สไลเดอร์ ได้เผยว่า “อาการของคุณพ่อก่อนหน้านี้ คุณพ่อป่วยเป็นโรคเกาต์ มันจะมาในช่วงที่พ่อกินของอร่อย ทำให้ปวดตามข้อ ส่วนโรคประจำตัวอย่างอื่นไม่มี แต่ที่เห็นเป็นหนักมากก็คือโรคเกาต์ เขาเป็นคนรักอิสระมากๆ ช่วงที่อยากจะพาพ่อไปรักษา แต่เขารู้สึกว่าเขาอยากรักษาด้วยตัวเขาเอง เขาก็จะโทรฯ มาคุยอยากได้อะไรก็จะโทรฯ มาบอก หนูไม่รู้จะช่วยพ่อยังไง เพราะช่วงที่รู้ว่าพ่อป่วยหนูเพิ่งอายุ 17 เริ่มเข้าแคสต์งานต่างๆ ยังไม่มีความสามารถอะไรที่จะมีเงินรักษาพ่อได้ในตอนนั้น อาการหนักแต่ว่าคุณพ่อก็ยังเดินได้และใช้ชีวิตปกติได้ ตอนที่พ่อมาอยู่กับทางญาติฝั่งแม่ เขาก็จะขี่มอเตอร์ไซค์ไปกินของที่เขาชอบและได้อยู่ในที่ธรรมชาติ

ส่วนในเรื่องการทานยา คุณพ่อก็ทานยามาเป็นเวลานานแล้ว ที่ผ่านมาได้มีการโทรฯ คุยกับคุณพ่อบ้าง วันไหนไปที่อำนาจเจริญก็จะไปหาพ่อเหมือนกัน แต่ล่าสุดคือเพิ่งซื้อทีวีให้ เพราะว่าพ่อบอกว่าทีวีเพิ่งเสีย เราก็เลยวิดีโอคุยกับเขา แล้วพี่ชายก็เป็นคนขึ้นไปซื้อทีวีให้พ่อ ตอนแรกหนูคิดว่าพ่อป่วยจากโรคแล้วเสียชีวิต แต่จริงๆ ไม่ใช่ พ่อเกิดอุบัติเหตุ พ่อกำลังจะถอดเสื้อ แล้วมีรอยแผลที่หัวคือเขาน่าจะล้มฟาดกับเตียง แล้วก็มาทราบว่าคุณพ่อเสียชีวิตเพราะทางโรงพยาบาลและตำรวจโทรฯ มาแจ้งผลชันสูตรว่าเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นหนูอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นวันที่หนูไปร่วมแสดงความเสียใจกับพี่ๆ นักแสดงช่อง จนสุดท้ายพี่ไปรษณีย์มาพบศพคุณพ่อและเป็นเหตุการณ์แบบที่เป็นข่าวออกมา”

“โดยคุณพ่อได้อยู่คนเดียวในบ้าน แต่ว่ารอบๆ จะมีเพื่อนบ้าน มีป้าๆ แล้ววันนั้นคุณพ่อบอกว่าอยากกินข้าวผัด แล้วคนที่จะผัดข้าวให้พ่อเขายังเตรียมพวกหมูเอาไว้ให้พ่อ แต่พ่อจากไปก่อน ซึ่งหลังจากที่ทราบข่าว ย่าโทรฯ มาบอก พี่ชายก็เดินทางไปรับร่างคุณพ่อมาที่กรุงเทพฯ เพราะว่าคุณพ่อเกิดและโตที่กรุงเทพฯ ตลอด เพียงแต่ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คุณพ่อได้ไปใช้ชีวิตในที่ที่เขาอยากอยู่คือที่ที่ เป็นธรรมชาติ ซึ่งบ้านตรงนั้นก็เป็นบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านของคุณยาย ข้างหลังเป็นภูเขาข้างหน้าเป็นแม่น้ำ แล้วเขาก็มีมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ขี่รถไปทำอะไรที่เขาอยากทำ เราเห็นด้วยที่เขาไปใช้ชีวิตแบบนั้น แล้วก็ขอพ่อว่าถ้าหนูจะอยู่กับพ่อตลอดแล้วจะหาเงินได้จากที่ไหน  หนูต้องทำหน้าที่ของหนูให้ดี ตอนนั้นก็เป็นช่วงชีวิตที่หนูกำลังเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงก็เลยขอให้พ่ออยู่ที่ที่มีคนดูแลพ่อ แต่พ่ออยากอยู่อิสระ เพราะเขารักสันโดษ”

เก๋ไก๋ เล่าต่อว่า “ถามว่าตอนนี้มีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจอยู่ไหม หนูรู้สึกว่าวันที่พ่อไป เราไม่รู้และไม่ได้อยู่ข้างเขาตอนนั้น รู้สึกว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องเจ็บ หนูให้กำลังใจตัวเองว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องเจ็บปวดกับโรคเพราะเขาเคยบอกว่าเขาอยากหาย แต่หนูไม่รู้ว่าจะช่วยให้เขาหายยังไง ส่วนดราม่าต่างๆ ที่เข้าใจเราผิดในหลายเรื่องก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะเข้าใจในแบบของตัวเขาเพราะมันเป็นเรื่องจริงที่หนูไม่ได้อยู่ในวันที่พ่อเสียแต่ที่ผ่านมาเราก็ทำหน้าที่ของตัวเองมาอย่างดีที่สุดโดยตลอด ใครๆ ก็อยากอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวเนอะ 

พ่อสอนให้หนูตั้งใจเรียน อย่างน้อยเราได้ช่วยในแบบของเรา พ่อได้มอบพลังนี้ให้กับหนู สิ่งที่คนเข้าใจผิดจริงๆ หนูไม่ได้อ่านมาก แล้วแต่คนจะคิดเลย แต่ว่าคนรอบๆ ตัวเขาเข้าใจก็พอ พี่ชายก็เป็นห่วงเพราะมีน้องสาวคนเดียว เขาก็ทำเต็มที่ในรูปแบบของพี่เท่าที่เขาจะทำได้ เขาก็รู้ว่าเราทำอะไร เราก็รู้ว่าเราทำอะไรอยู่ ก็อยากจะบอกกับพ่อว่า มันเป็นช่วงที่พ่อได้อยู่อย่างอิสระแล้ว ตอนนี้พ่อได้หลับสบายที่สุดแล้วในชีวิต ก็ขอให้พ่อได้หลับสบาย แล้วหนูก็จะได้ส่งของกินที่อร่อยให้พ่อโดยที่พ่อไม่ต้องเจ็บป่วย

ถามถึงเรื่องที่พ่อเป็นห่วงอะไรเรามากที่สุด คิดว่าพ่อก็คงรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันเลยเนอะ พ่ออาจจะไปรออยู่ที่ดาวดวงอื่น เขาก็คงภูมิใจที่เราสามารถดูแลตัวเองได้ หนูขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปเพราะว่าพ่อได้ให้พลังที่ดีมาแล้วให้เราอยู่ตรงนี้อย่างเข้มแข็งค่ะ น่าจะไปลอยอังคารที่สมุทรปราการ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกันค่ะ”