เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ปั่นไปไหน-สมชัย ศรีสุทธิยากร” ระบุว่า “เพื่อนกันเขาไม่ยื่นคำขาดกัน” โดยได้มีการเทียบเคียงเหตุการณ์ทางการเมืองกรณีสมเด็จฮุน เซน ยื่นคำขาดให้ไทยเปิดด่านภายใน 24 ชั่วโมง กับกรณีการขอกระทรวงมหาดไทยคืน ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย
โดยเป็นคำที่กระทรวงต่างประเทศไทย เคยใช้กับกัมพูชา เวลาที่สมเด็จฮุน เซน ยื่นคำขาดให้ประเทศไทยเปิดด่านให้เป็นปกติใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นจะดำเนินดำเนินการอย่างใดต่อ ซึ่งอาจเป็นคำที่เหมาะกับการเมืองไทย ในขณะนี้ที่พรรคเพื่อไทยยื่นคำขาดขอยึดกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทย ให้เวลาในการตัดสินใจ 48 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นก็ไปเป็นฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ การยื่นคำขาด (Ultimatum) นั้นเป็นผล หากคุณมีแสนยานุภาพเหนือกว่า ฝ่ายที่ถูกยื่นย่อมกลัวลนลานจนต้องรีบปฏิบัติตาม
เมื่อครบ 24 ชม. คำขาดของสมเด็จฮุน เซน จึงไม่มีผลอะไร ไม่มีการรีบเปิดด่านตาม ยกเว้นคำพูดกวนกลับว่า เรายังไม่เคยปิดด่านแค่ลดเวลาเปิด ทั้งนี้ เพราะไทยเห็นว่าฝ่ายยื่นคำขาดนั้นบ่มิไก๊ ทำให้สมเด็จฮุน เซน ต้องมาแก้ตัวแก้เขินว่า สื่อไปลงเอง สื่อแปลความหมายผิด
นายสมชัย ยังกล่าวอีกว่า คำขาดของเพื่อไทย เมื่อครบ 48 ชั่วโมง หรือบ่ายสามวันพฤหัส จะเป็นการพิสูจน์ว่า เพื่อไทยบ่มิไก๊กะเขาด้วยหรือไม่
“ครบ 48 ชม. หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีแกนนำเพื่อไทยมาบอกว่า สื่อไปลงเอง ไม่มีการยื่นคำขาดจากนายกฯ เลย สื่อเอาข่าวที่ไหนมาลง ฮุน เซน รัก เพื่อไทยเพราะเหตุนี้แหละ”