เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 68 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ว่าตนได้ให้กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตในอิสราเอล และอิหร่าน ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน อย่างใกล้ชิด และรายงานพัฒนาการในพื้นที่ให้ทราบอย่างต่อเนื่องและทันต่อสถานการณ์ โดยได้รับรายงานว่า สถานการณ์มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนมากขึ้น ซึ่งประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐและจีน ได้ประกาศให้ประชาชนของตน “เดินทางออกนอกพื้นที่” ตั้งแต่เมื่อวาน (17 มิ.ย.) แล้ว

ดังนั้น ตนจึงขอให้พี่น้องคนไทยในอิสราเอล และอิหร่าน พิจารณาเร่งเดินทางออกจากพื้นที่ในทันทีที่สามารถกระทำได้อย่างปลอดภัย โดยสามารถติดต่อสถานทูตในอิสราเอลและอิหร่านได้ที่ : สายด่วนสถานทูต ณ กรุงเทลอาลีฟ หมายเลข +972 546 368150 และ +972 503 673195

สายด่วนสถานทูต ณ กรุงเตหะราน หมายเลข +98 912 159 5699 และ +98 912 500 7933, Call Center กระทรวงการต่างประเทศ
หมายเลข 0-2572-8442 ตลอด 24 ชั่วโมง

ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 68 สถานทูต ณ กรุงเตหะราน ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับคนไทยที่เมือง Amol ในจังหวัด Mazandaran ทางเหนือของอิหร่าน ซึ่งเป็นจุดที่ปลอดภัย และห่างจากจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร หรือนิวเคลียร์ของอิหร่าน สามารถรองรับคนไทยได้ถึง 200 คน โดยขณะนี้มีคนไทยไปพำนักอยู่แล้ว 35 คน

“หากสถานการณ์ยกระดับขึ้นอีก หากจำเป็นต้องอพยพประชาชนออกจากประเทศ ทางกระทรวงการต่างประเทศ จะเร่งแจ้งพี่น้องประชาชนต่อไป พร้อมขอให้ติดตามข่าวสารต่างๆ ของทางการท้องถิ่นและสถานทูต อย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางการอย่างเคร่งครัด” นายมาริษ กล่าว