เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่รัฐสภา น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเสนอนับองค์ประชุมในการประชุม จนองค์ประชุมล่มเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ว่า เราแจ้งไปตั้งแต่เช้าแล้วว่าจะมีการนับองค์ประชุม และตอนที่อยู่ในห้องเรา ก็พูดกับฝ่ายรัฐบาลหลายครั้งว่าจะนับองค์ประชุม ต้องบอกว่าการทำงานใน กมธ. ไม่ได้ราบรื่น สิ่งที่พรรค ปชน. เสนอไปหลายอย่าง ไม่ได้รับการยอมรับ เช่น เรื่องการขอเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นคำของบประมาณที่เราถูกปฏิเสธว่าไม่สามารถขอสิ่งนี้ได้

น.ส.รักชนก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการขอให้รัฐมนตรีว่าชี้แจงด้วยตนเอง ในบางกรณีที่เป็นเรื่องเชิงนโยบายที่จำเป็น ก็ไม่ได้รับการตอบรับ รวมถึงเรื่องการถ่ายทอดสด ต้องยืนยันว่าการถ่ายทอดเป็นสิทธิ แต่เราก็ถูกต่อต้านอย่างหนัก ตนคิดว่าเป็นอาการที่แปลก นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่เรานำคลิปเสียงของเพื่อนมาเปิดเพื่อสอบถาม ซึ่งจริงๆ ก็มีการขอให้ทำเป็นเอกสารแนบมาในส่วนของผู้ที่ถาม และไม่มีเหตุผลอะไรที่จะห้าม แต่ก็ห้าม เราคิดว่าเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ว่าการทำงานด้วยกันไม่ราบรื่นจริงๆ

“ขอยืนยันว่า อาวุธเดียวของเสียงข้างน้อยคือการนับองค์ประชุม และอาวุธนี้ของเราจะไม่สามารถทำอะไรเสียงข้างมากได้ หากท่านมาประชุมกัน ดังนั้น ท่านต้องมาประชุม” น.ส.รักชนก กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีการนับองค์ประชุมไปทุกรอบหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า “ถ้าครูไหมอนุญาตก็นับ”

ทำให้ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. กล่าวว่า ไม่ใช่ การนับองค์ประชุมเป็นอาวุธที่ใช้บ่อยก็ไม่ดี หากเราเห็นแล้วว่า กมธ. เสียงข้างมาก ให้ความร่วมมือมาประชุมตามหน้าที่ เราก็จะใช้มุกนี้ไม่ได้ และที่สำคัญเราเห็นใจข้าราชการ ต้องขอโทษข้าราชการด้วยที่บางคนมาตั้งแต่เช้า เพราะเป็นภาพรวมของกระทรวงการคลัง แต่ 3 หน่วยงานที่ต้องมา ก็ทราบอยู่แล้วว่าต้องมาในช่วงท้าย แต่อย่างไรก็ต้องขอโทษด้วย ที่ทำให้ต้องมาอีกครั้ง

เมื่อถามว่า เป้าหมายของการนับองค์ประชุมคืออะไร เป็นเกมการเมืองหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องบอกว่าเราวางแผนที่จะใช้เรื่องนี้ในการเจรจา ทำงานภายใน แน่นอนว่าเรื่องของการถ่ายทอดสด เราต้องก้าวข้าม แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราเห็นว่าสามารถทำให้ราบรื่นได้ โดยที่ไม่ได้มากดขี่ฝั่งเรามากเกินไป เพื่อที่สามารถทำงานร่วมกันได้ราบรื่นมากกว่าให้องค์ประชุมล่ม เพราะเราก็ใส่ใจที่อยากให้จบตามเวลาที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้

เมื่อถามว่า ชั่งน้ำหนักแล้วใช่หรือไม่ว่าการที่องค์ประชุมล่มเช่นนี้ กับการที่หน่วยงานราชการจะต้องรอมาชี้แจง อันไหนมีน้ำหนักที่สำคัญกว่ากัน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ใช่ เราคิดว่าเราคาดการณ์ไว้แล้วว่าข้าราชการส่วนใหญ่ทราบคิวว่าจะต้องเป็นคิวสุดท้าย และคงไม่ได้มากันตั้งแต่เช้า ยกเว้นอธิบดีหรือผู้บริหารกรมบางส่วนเท่านั้น ไม่เช่นนั้น เราคงล่มตั้งแต่เช้า ซึ่งคงจะมีคนเสียหายเยอะกว่านั้น คิดว่าเป็นการชั่งน้ำหนักที่โอเค และทำให้เสียงข้างมากรู้ว่าเราต้องการอะไร และวันนี้ก็มาร่วมประชุมกันอย่างคึกคัก

ต่อข้อถามว่า ที่องค์ประชุมล่มมาจากเรื่องภายในรัฐบาลหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยว เพราะเราก็เห็นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเริ่มประชุมเป็นวันแรก โดยยิ่งดึกก็ยิ่งหาย ตอนจบจะเหลือเพียงแค่เสียงข้างน้อย โดยที่เสียงข้างมากมีถึง 2 ใน 3 เราจึงรู้สึกว้าเหว่บ้าง เหงาบ้างตอนดึก จึงอยากมีเพื่อน หากไม่ไลฟ์ก็จะไม่รู้ว่าใครอยู่ประชุมบ้าง หากเสียงข้างน้อยพูดอะไรไปก็ไม่มีใครโต้เถียง เช่นเดียวกับเมื่อวานที่ไม่รู้ว่ามีใครนั่งฟังจริงๆ หรือไม่ ตอนที่กรมสรรพากรตอบคำถามเรื่องที่ในปี 2569 จะมีการเก็บภาษีที่เรียกว่า ไซโยนาระ เป็นการเก็บภาษีขาออกนอกประเทศทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ที่สำคัญ ปัญหาคือประมาณการรายได้ที่ใส่ไว้ 28,000 ล้านบาท หากเก็บไม่ได้หรือเก็บได้น้อย ก็เท่ากับว่ารายได้เราจะหายไป ยิ่งทำให้ตกเป้าไปอีก

เมื่อถามว่า จะเป็นผลดีหรือไม่ หากฝ่ายรัฐบาลไม่อยู่ ฝ่ายค้านจะได้เสนอและคุมการประชุม น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เราอยากให้บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นมากกว่า แน่นอนว่าดึกๆ เราสามารถพูดอะไรก็ได้ ไม่มีใครมาท้วง หรือมาปรามเราได้อยู่แล้ว เราควรจะต้องได้เปรียบ หากมีการถ่ายทอดสด เราก็ยังมั่นใจว่า กมธ. ที่ไม่ได้อยู่ในห้องจะฟังเราอยู่ และในวันถัดมาจะสามารถถกเถียงกันได้ แต่เมื่อไม่มีการถ่ายทอดสด ก็ไม่ทราบว่าเขาจะได้ฟังเราหรือไม่

เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ฝ่ายค้านอยู่ครบองค์ประชุมหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ในฝั่งของเสียงข้างน้อยก็มีหลายคนที่ติดภารกิจ เช่น นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ที่ติดภารกิจใน กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ติดภารกิจ กมธ.การทหารฯ ก็จะไม่ได้อยู่ในที่ประชุม แต่ก็ต้องพูดเลยว่าใน 21 คน ที่เป็นองค์ประชุม แม้ว่าเสียงข้างน้อยจะเข้าไปเติม ก็ไม่ครบกึ่งหนึ่งอยู่ดี

เมื่อถามว่า ในการทำงานของ กมธ. เป็นในนามสภาผู้แทนราษฎร แตกต่างจากห้องประชุมสภาใหญ่ การใช้วิธีการแบบนี้ทำให้กรอบเวลาล่าช้า น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า อย่าห่วงเรื่องล่าช้าเลย เพราะคนที่พูดเยอะเป็นฝั่งเสียงข้างน้อยอยู่แล้ว คนที่ทำการบ้านมาสอบถามต่างๆ ก็เป็นเสียงข้างน้อยเป็นหลัก เราสามารถที่จะยืดหด ปรับเวลาได้ เราไม่ได้พูดไปเรื่อยๆ เราพูดที่เป็นสาระ ส่วนที่จะเป็นเกมการเมืองที่จะใช้เฉพาะในสภาหรือไม่ ตนคิดว่าใน กมธ. คงไม่ต่างกัน และไม่ได้จะบอกว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่จะเป็นเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อยมากกว่า อยากให้ทุกคนที่เข้ามาทำงานใน กมธ. ได้ทำงานอย่างเต็มที่

ด้าน น.ส.รักชนก กล่าวว่า หากใครยังจำกันได้ ตอนที่เสนอชื่อเป็น กมธ. หลายพรรคแย่งกันเป็น แต่พอเข้ามาเป็นจริงๆ แล้ว ก็ไม่เข้ามาประชุมกัน จึงอยากที่จะกระตุ้นเพื่อนสมาชิก

เมื่อถามว่า นอกจากเรื่องไลฟ์แล้ว ตั้งแต่ทำงานเป็นรองประธาน กมธ. มา ตั้งข้อพิรุธอะไรในงบประมาณบ้าง น.ส.รักชนก กล่าวว่า มีเอกสารที่เราอยากขอ และขอมาหลายรอบแล้ว

เมื่อถามว่า พรรค ปชน. จะสามารถไลฟ์สดการประชุมพรรคประจำสัปดาห์ เพื่อเป็นแบบอย่างได้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ได้ เดี๋ยวคงมีการนำเรื่องนี้เข้าไปหารือกับที่ประชุม สส. เราสามารถไลฟ์ได้ไม่มีปัญหา ที่มีคนบอกว่าของพรรค ปชน. ไม่เห็นไลฟ์ ต้องบอกว่าเป็นคนละเรื่องกันกับการพิจารณาเงินภาษีของประชาชน แต่หากจะให้เราไลฟ์ ในส่วนของพรรคเราก็สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่เราต้องเน้นความสำคัญในเรื่องนี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาเปรียบเทียบกันได้.