จากความคืบหน้าคดีบัญชีม้า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 68 เจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหาและนำพาบุคคลไปเปิดบัญชีธนาคาร ก่อนลักลอบข้ามแดนไปทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา โดยผ่านช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ประกอบด้วย นายชอบ ชาวศรีสะเกษ ผู้ทำหน้าที่ขับรถรับจ้างรับส่งบัญชีม้า นายปราชญ์ปรัศว์ หรือ เต้ ชาวปราจีนบุรี ทำหน้าที่สั่งการและประสานงานการนำพาข้ามแดน นางแจ่มใส ชาวสระแก้ว มีบทบาทคล้ายกับนายเต้

โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางเป็นสมุดบัญชีธนาคารจำนวนหนึ่ง และได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหาบัญชีม้า” อันเป็นความผิดตามกฎหมาย

ภายหลังการจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถขยายผลไปสู่การออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมอีก 4 ราย โดยเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 68 สามารถจับกุมได้แล้ว 4 ราย ได้แก่ น.ส.ทิพย์ดารา หรือ “เจ๊ปู” ชาวสระแก้ว นายไกรเดช หรือ “เดช” สามีของเจ๊ปู มีบทบาทพาผู้ถูกจัดหามาส่งต่อให้คนกัมพูชาเพื่อข้ามแดนบริเวณบ้านยายหมู 3. นายพีระพัฒน์ และ 4. นางสุรัตน์ สองแม่ลูกชาว อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งมีหน้าที่จัดหาบุคคลไปเปิดบัญชีธนาคารให้เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ดำเนินการถอน-โอนเงิน

เจ้าหน้าที่ระบุว่า เส้นทางลักลอบข้ามแดนที่ใช้ คือ ช่องทางธรรมชาติบริเวณบ้านวังวน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พิกัด 13.636667, 102.570639 โดยมีเครือข่ายคนท้องถิ่นทั้งไทยและกัมพูชาร่วมมือเป็นทอด ๆ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เตือนประชาชนว่า การเป็นบัญชีม้า หรือจัดหาบุคคลเพื่อเปิดบัญชี ถือเป็นการร่วมขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมีโทษหนัก ดังนี้ ผู้จัดหาบัญชีม้า มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท และ ผู้เปิดบัญชีม้า มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หากบัญชีดังกล่าวมีเงินจากการฉ้อโกงเข้ามา อาจเข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน, ฟอกเงิน และเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือประชาชนอย่าหลงเชื่อหรือเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีม้า การรับจ้างพาไปเปิดบัญชี หรือการลักลอบนำพาผู้คนข้ามแดน เพราะนอกจากมีความผิดร้ายแรงแล้ว ยังเสี่ยงต่อการถูกหลอกใช้ในกระบวนการอาชญากรรมข้ามชาติอีกด้วย.