จากกรณี การติดตามไล่ล่าจับกุมตัวกลุ่มมือปืนที่ลงมือก่อเหตุกระหน่ำยิง นายสิทธิกร (สงวนนามสกุล) หรือ เปี๊ยก อายุ 51 ปี เสี่ยคนดังเจ้าของธุรกิจร้านขายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ และร้านอาหารชื่อดังใน อ.สังขละบุรี จนถึงแก่ชีวิต เหตุเกิดภายในลานจอดรถของห้างจำหน่ายวัสดุตกแต่งบ้านชื่อดัง กลางเมืองกาญจนบุรี ช่วงค่ำวันที่ 25 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ 686816_0-1280x720.jpg

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ทางตำรวจยังคงไม่ตัดประเด็นสังหารประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว เรื่องชู้สาว หรือเรื่องประเด็นความขัดแย้งทางธุรกิจ เนื่องจากผู้เสียชีวิตทำธุรกิจหลายอย่าง จึงอาจนำไปสู่การปัญหาขัดแย้งอย่างรุนแรงได้ ทางตำรวจจำเป็นจะต้องสืบสวนให้รอบด้าน เพื่อหาแรงจูงใจของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจในครั้งนี้ ว่ามาจากสาเหตุใดกันแน่

โดยตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และชุดสืบสวนภูธรเมืองกาญจนบุรี กระจายกำลังกันลงพื้นที่ ตรวจสอบภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบพฤติการณ์โดยรวมของคนร้าย ว่ามีการติดตามผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่จุดใด ก่อนจะลงมือก่อเหตุ รวมถึงตรวจสอบเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ขณะเดียวกันได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เชิญตัวภรรยาของผู้เสียชีวิตเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่คาดว่าจะเป็นชนวนเหตุหลัก ที่ทำให้ผู้เสียชีวิตถูกกระหน่ำยิงอย่างอุกอาจในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ทางลูก ๆ และครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมารอรับศพของ นายสิทธิกร ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งชันสูตรอย่างละเอียด โดยลูกชายของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลกับสื่อว่า คุณพ่อเตรียมที่จะเปิดธุรกิจร้านข้าวต้มในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ก่อนเกิดเหตุ พ่อโทรฯ มาสั่งว่า ให้ตนและพนักงานรอช่วยกันยกเก้าอี้ที่มาซื้อสำหรับใช้ในร้านข้าวต้ม โดยบอกว่ากำลังจะเดินทางกลับถึงสังขละบุรี ช่วงเวลาประมาณสองถึงสามทุ่ม ก่อนที่พ่อจะถูกกลุ่มมือปืนลงมือสังหาร ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่าพ่อมีความขัดแย้งกับใคร แต่ตนมองว่าพฤติกรรมการก่อเหตุของกลุ่มคนร้าย มีความเหี้ยมโหดและลงมืออย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

ขณะเดียวกัน ป้าอุ้ย อายุ 61 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยรู้มาก่อนว่า นายสิทธิกร ไปมีปัญหาหรือมีความขัดแย้งกับใคร เพราะตนอาศัยอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ขณะที่ นายสิทธิกร มาทำธุรกิจหลายอย่างอยู่ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จึงไม่ทราบว่าไปมีความขัดแย้งกับใคร จนนำมาสู่การถูกลงมือสังหารโหดในครั้งนี้ โดยหลังจากนี้ ทางครอบครัวจะรอรับศพ นายสิทธิกร เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายสิทธิกรต่อไป.