เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดประตูด่านฝั่งโอร์เสม็ด บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อให้แรงงานชาวกัมพูชา 9 คน เดินทางกลับประเทศกัมพูชา โดยช่วงเช้าพบแรงงานชาวกัมพูชาเดินทางกลับจำนวน 61 คน ซึ่งแต่ละวันไทยได้อนุญาตให้แรงงานชาวกัมพูชาเดินทางกลับผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอมได้ โดยฝั่งกัมพูชาจะเปิดให้แรงงานชาวกัมพูชากลับ 2 เวลา คือ 10.00 น. และ 14.00 น.

ต่อมามีรถยนต์กระบะสี่ประตูสีน้ำตาล ทะเบียนกัมพูชา โดยมี Mr. Michael Hargreaves สัญชาติอังกฤษ มากับลูกชายวัย 3 ขวบ เข้ามาที่ประตูด่านช่องจอม เพื่อจะขอข้ามแดนไปยังกัมพูชา เนื่องจาก Mr. Michael Hargreaves เป็นนักธุรกิจที่ประเทศกัมพูชา พาครอบครัวคือภรรยาชาวฟิลิปปินส์ และลูกชาย เข้ามาเที่ยวเขาใหญ่ 3 วัน 3 คืน ก่อนจะเดินทางไปส่งภรรยาขึ้นเครื่องกลับฟิลิปปินส์ แล้วก็ขับรถมากับลูกเพื่อผ่านเข้ากัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยอนุญาตให้ผ่านไปได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่กัมพูชาไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติข้ามไปยังกัมพูชาได้ และบอกให้เดินทางผ่านช่องทางประเทศอื่นหรือใช้เส้นทางเครื่องบินแทน

Mr. Michael Hargreaves นักธุรกิจที่ประเทศกัมพูชา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองข้ามแดนมาไทยกับภรรยาชาวฟิลิปปินส์ และลูกชาย ก่อนหน้าที่ด่านจะมีมาตรการควบคุมไม่ให้เข้าออก ตนพาภรรยาข้ามแดนมาไทยที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอมและได้พาภรรยาไปเที่ยวเขาใหญ่ 3 คืน ก่อนจะไปสนามบินที่ กทม.เพื่อบินไปส่งภรรยาที่ฟิลิปปินส์ และตนก็กลับมากับลูก กำลังจะกลับผ่านจุดผ่านแดนเดิม ทาง จนท.ไทยก็อนุญาต แต่กลับพบว่า จนท.กัมพูชาไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติข้ามไปยังกัมพูชาแต่อย่างใด โดย จนท.กัมพูชาให้เดินทางผ่านช่องทางประเทศอื่นหรือใช้เส้นทางเครื่องบินแทน ซึ่งตนก็เข้าใจในสถานการณ์และไม่มีปัญหา

จากนั้นชาวต่างชาติจึงพาลูกชายขับรถเดินทางกลับ คาดว่าจะไปใช้เส้นทางเครื่องบินแทน ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ ยังคงตึงเครียดเช่นเดิม ประชาชนเริ่มชินกับกระแสข่าวที่ผู้นำกัมพูชา พยายามออกมาตอบโต้ไทยผ่านโซเชียลจนแทบจะเป็นเรื่องปกติ และต่างคาดหวังว่าจะไม่เกิดสงครามขึ้น เพราะประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนทั้งสองประเทศกำลังลำบาก