เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภจว.สุราษฎร์ธานี นำโดย พ.ต.ท.สมเกียรติ สังข์นาค สว.สืบสวน.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจค้นที่ ขนำข้างบ้านไม่มีเลขที่ในสวนยางพารา ม.4 ต.ทุ่งเตาใหม่ อ.บ้านนาสาร จว.สุราษฎร์ธานี และ จับกุมตัวนายอิสรพงษ์ หรือ อิฐ วิชัยดิษฐ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/22 หมู่ 1 ถ.กาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลาง ยาบ้า 40,000 เม็ด ,ไอซ์ จำนวน 11 ถุง น้ำหนัก 1.467 กิโลกรัม ยาเคหรือ เคตามีน ชนิดเกล็ด สีขาวขุ่น จำนวน 5 ถุง น้ำหนักรวมทั้งหมด 473.6 กรัม ยาอี ชนิดเม็ด สีเขียว 7 ถุง รวม 700 เม็ด ,เครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว. สุราษฎร์ธานี ได้จับกุมตัว นายสิริวุฒิ หรือ มดแดง คงวิจิตร พร้อมของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด สอบปากคำเพื่อสืบสวนขยายผล นายสิริวุฒิ การซักทอดว่ายาบ้าดังกล่าว เป็นของนายอิสรพงษ์ ตนเองมีหน้าที่เพียงนำยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านนายอิสรพงษ์ เท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนการตรวจค้นและจับกุมนายอิสรพงษ์ เพิ่งอาศัยซ่อนตัวอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ในสวนยางพารา หมู่ 4 ต.ทุ่งเตาใหม่ อ.บ้านนาสาร จว.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอยู่ภายในสวนยางพาราหลังบ้านของนายสิริวุฒิ ได้พร้อมของกล่าวดังกล่าว

จากการสอบสวนในเบื้องต้นนายอิสรพงษ์ ให้การรับสารภาพว่ายาเสพติดของกลางที่เจ้าหนเาที่ตรวจยึดได้เป็นของตนเอง โดยตนสั่งซื้อมาจากประเทศพม่าจากบุคคลที่ตนเรียกว่า พ่อลุง (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ใช้ชื่อไลน์ “เพิ่ม” ซึ่งตนได้รู้จักตอนที่หลบหนีหมายจับไปอยู่ที่ประเทศพม่าเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา โดยครั้งล่าสุด ตนได้สั่ง ยาบ้ามา 100 มัด หรือ 200,000 เม็ด ,ไอซ์ 2 กิโลกรัม ,เคตามีน 1 กิโลกรัม , ยาอี 1,000 เม็ด โดยพ่อลุง ได้ส่งยาเสพติดทั้งหมดมาทางบริษัทขนส่งพัสดุเอกชน เมื่อได้รับยาเสพติดมาแล้วตนได้มาเก็บไว้ที่ขนำที่เกิดเหตุ และรอลูกค้าสั่งซื้อ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อ ตนจะสั่งการให้ นายสิริวุฒิ เป็นผู้นำยาเสพติดไปวาง ตามที่ลูกค้าสั่งซื้อกับตน โดยตนจำหน่ายยาบ้าในราคามัดละ 18,000 บาทไอซ์ขีดละ 18,000 บาท , เคตามีนหรือยาเค ขีดละ 20,000 บาท และยาอี เม็ดละ 200 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า นายอิสรพงษ์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.410/2566 ลงวันที่ 1 พ.ย. 66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน,ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาตและสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามที่ได้สมคบกัน” และก่อนหน้านี้เมื่อ วันที่ 30 มิ.ย. 65 เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยใช้อาวุธปืนยิง ภรรยาเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านพัก ต.ท่าอุแท อ. กาญจนดิษฐ์ ซึ่งก่อเหตุได้หลบหนีและเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อต่อสู้คดี โดยอ้างว่า ไม่ได้มีเจตนายิงภรรยาแต่มีสาเหตุจากปืนลั่น และต่อสู้จนหลุดคดี ต่อมานายอิสรพงษ์ ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีออกหมายจับในข้อหาสมคบค้ายาเสพติด จึงได้หลบหนีไปหลบซ่อนตัวที่ประเทศพม่า และมีการส่งยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และ เพิ่งเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่ ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 วัน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนจับกุมได้ในที่สุด
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า,ไอซ์,ยาอี) ,มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต , จำหน่ายยาเสพติดประเภทวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า,ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านนาสาร จ. สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.