สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่านายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการใหญ่ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ( ไอเออีเอ ) กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดของโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ว่า “บางสิ่งยังคงอยู่” และ “เครื่องหมุนเหวี่ยงจำนวนหนึ่งน่าจะกลับมาทำงาน และสามารถเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้อีกครั้ง ภายในอีกไม่กี่เดือน หรือน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ”


หลังสหรัฐปฏิบัติการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน คือ นาทานซ์ อิสฟาฮาน และฟอร์โดว์ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา เกิดคำถามตามมามากมาย ว่าปฏิบัติการดังกล่าวสามารถสร้างความเสียหายให้กับโรงงานนิวเคลียร์ทั้งสามแห่ง มากหรือน้อยเพียงใด และอิหร่านสามารถเคลื่อนย้ายคลังยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงที่คาดว่ามีอยู่ 408.6 กิโลกรัม ไปบางส่วนหรือทั้งหมดก่อนเกิดการโจมตีได้หรือไม่


ทั้งนี้ ยูเรเนียมดังกล่าวผ่านการเสริมสมรรถนะแล้วสูงถึง 60% ซึ่งเกินระดับที่ใช้ในโครงการนิวเคลียร์พลเรือน แม้ยังไม่ถึงระดับที่ใช้ทำอาวุธ อย่างไรก็ตาม หากนำไปผ่านกระบวนการเพิ่มสมรรถนะต่อ ก็สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้มากกว่า 9 ลูกในทางทฤษฎี


เกี่ยวกับเรื่องนี้ กรอสซียอมรับว่า “ไม่ทราบเลย” และตอนนี้สันนิษฐานได้เพียงว่า “ยูเรเนียมบางส่วนอาจเสียหายเพราะการโจมตี แต่บางส่วนอาจถูกเคลื่อนย้ายไปแล้วเช่นกัน” และต่อประเด็นที่อิหร่านระงับความร่วมมือกับไอเออีเอ กรอสซีกล่าวเพียงว่า ไอเออีเอ “ต้องอยู่ในสถานะที่สามารถยืนยันได้ว่า อะไรยังอยู่ ที่ไหน และเกิดอะไรขึ้น”


ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยังคงยืนกรานว่า ปฏิบัติการโจมตีทางทหารของสหรัฐ “เป็นการทำลายล้าง” โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน และไม่เชื่อว่า อีกฝ่ายเคลื่อนย้ายคลังยูเรเนียมล่วงหน้า โดยอ้างข้อมูลข่าวกรองของรัฐบาลวอชิงตันว่า “ไม่พบการเคลื่อนไหว” แต่อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวว่า “สหรัฐพูดเกินจริงไปมาก” เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้น.

เครดิตภาพ : AFP