เมื่อวันที่ 18 พ.ย.รัศมิ์ ชาลีจันทร์ อดีตทูต ได้โพสต์ผ่านเพจ ทูตนอกแถว The Alternative Ambassador Returns ตั้งคำถามถึงกรณีมีสื่อต่างประเทศเผยแพร่ข่าวนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ไปประเทศเมียนมา ระบุว่า

ทำไมต้องแอบไปพม่าแบบลับๆล่อๆด้วยครับ?

ว่าจะไม่อยากพูดถึงแล้วแม้จะรู้มาก่อนว่าจะมีการไปเยือนพม่าโดยบุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรีของไทยเมื่อวันที่ 15 พ.ย. นี้เพราะเห็นทำเป็นเรื่องลับๆล่อๆไม่บอกใคร ก็เลยไม่อยากไปยุ่งด้วย แต่พอเห็นเนื้อข่าวจากสื่อของทางฝั่งพม่าก็คิดว่าเรื่องนี้มันควรเป็นเรื่องที่สาธารณะชนควรได้รับรู้

จริงอยู่ในอดีตเรื่องทางการทูตหลายเรื่องมักปกปิดเป็นความลับ การเจรจาที่ไม่เปิดเผยให้สาธารณชนได้ทราบ ซึ่งมันก็มีข้อดีในแง่การรักษาแต้มต่อในการเจรจา แต่ทุกวันนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ปัจจุบันการดำเนินการทางการทูตจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ซึ่งก็คือประชาชนเจ้าของประเทศมากขึ้นทุกขณะ แม้อาจจะไม่ต้องเปิดเผยทั้งหมดแต่อย่างน้อยต้องอธิบายได้ในเชิงหลักการว่าทำไปเพราะเหตุใด

ในเนื้อข่าวที่ปรากฎในสื่อของพม่าที่แนบมานี้มีระบุด้วยว่าฝ่ายไทยไปบริจาคมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้กับพม่าด้วย ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าสาธารณชนไทยควรมีสิทธิที่จะรู้ว่าฝ่ายไทยเอาวัคซีนจำนวนเท่าใดและชนิดใดไปมอบให้ฝ่ายพม่านะครับ เพราะมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับชีวิตของประชาชนไทย และเหตุผลว่าทำไมเราต้องเอาไปให้ทหารพม่า เพราะก็รู้กันอยู่ว่ารัฐบาลทหารพม่าที่เข่นฆ่าประชาชนตนเองทุกเมื่อเชื่อวัน คงไม่น่าจะมีแก่ใจจะเอาวัคซีนเหล่านี้ไปช่วยเหลือชาวพม่า

และจากเนื้อข่าวนี้ ฝ่ายพม่าเองก็ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องลับโดยไม่มีการเปิดเผยหัวข้อการหารือ แต่ที่มันตลกคือปกติในพม่านั้นแทบไม่มีสื่อที่อิสระจริง และข่าวที่ออกมาย่อมต้องมีส่วนรู้เห็นจากทางรัฐ ดังนั้นการที่มันเป็นข่าวย่อมไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากฝ่ายพม่าต้องการเอาการเยือนของบุคคลระดับสูงของรัฐบาลไทยนี้มาใช้รับรองความชอบธรรมของตนเอง

ที่น่าสังเกตยิ่งขึ้นคือข่าวระบุว่าช่วงนี้มีผู้แทนพิเศษจากทั้งจีนและญี่ปุ่นไปเยือนพม่า ซึ่งที่น่าสังเกตก็คือคำว่า”ผู้แทนพิเศษ” (special envoys) นี่แหละ เพราะนี่ไม่ใช่คนระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือระดับผู้นำรัฐบาล ซึ่งแปลว่าประเทศอื่นเขาใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการติดต่อกับรัฐบาลทหารพม่าที่โลกรังเกียจ แม้กระทั่งประเทศที่ปกติไม่ต้องแคร์ใครอย่างจีนนะครับ

แล้วไทยเราเป็นอะไรหรือครับ? เพื่อนๆนักการทูตบางคนก็บอกว่าคงจะกลัวพม่าโกรธเอาที่อาเซียนไม่ยอมเชิญพม่าร่วมการประชุมสุดยอด เลยต้องไปเอาใจเขา แต่ผมเองมองว่าพม่าตอนนี้แทบไม่มีแต้มต่ออะไรเหลือเข้าทุกที เขาน่าจะเป็นฝ่ายเอาใจไทยมากกว่า ที่คนระดับผู้นำรัฐบาลไทยต้องรีบแจ้นไปหา แถมด้วยวัคซีนอีก

ผมเห็นแล้วก็ว่าแปลกดีแท้ และก็คิดว่าทางการไทยควรอธิบายให้สาธารณชนได้ทราบมากกว่านี้ ถ้ามันเป็นสิ่งถูกที่ควรก็ต้องอธิบายได้ นอกจากจะรู้ดีอยู่แก่ใจแต่แรกว่ามันไม่ถูก ถึงได้ทำลับๆล่อๆแบบนี้

ผมว่าน่าจะลองหัดทำอะไรให้ประชาชนคนไทยได้ชื่นใจบ้างนะครับ เพราะหกเจ็ดปีมานี้ดูเหมือนแทบไม่มีอะไรสักอย่าง