เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง
สภากรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 โดยมีนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากทม. เป็นประธานการประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมสภากรุงเทพมหานคร บรรยากาศได้ตึงเครียดขึ้น เมื่อ น.ส.นฤนันท์มนต์ ห่วงทรัพย์ สก. เขตคลองสามวา ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา โดยอาศัยข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อที่ 27 ขอให้มีการประชุมลับและเลือกตั้งประธานสภากรุงเทพมหานครคนใหม่ โดยมี ส.ก. จำนวน 25 คนร่วมลงชื่อในหนังสือเพื่อยื่นต่อประธานสภาฯ

ด้าน นายสุรจิตต์ ซึ่งขณะนั้นทำหน้าที่ประธานสภาฯ ได้สอบถามถึงเหตุผลความเร่งด่วนของญัตติดังกล่าว และระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการประชุมลับ โดยให้เหตุผลว่าการทำงานของสภา กทม. ควรมีความโปร่งใส และตั้งคำถามกลับว่า มีประเด็นใดที่ต้องปิดบังประชาชนหรือไม่

น.ส.นฤนันท์มนต์ ตอบว่า มีสมาชิกลงชื่อรับรองให้มีการประชุมลับครบ 1 ใน 4 ของสภาแล้ว ซึ่งเป็นความเห็นร่วมกันของสมาชิก จึงขอให้ประธานสภาฯ พิจารณา

นายสุรจิตต์ ได้วินิจฉัยว่าญัตติดังกล่าว “ยังไม่เป็นเรื่องด่วน” เนื่องจากยังมีวาระความเดือดร้อนของประชาชนที่ค้างการพิจารณาอยู่หลายเรื่อง อย่างไรก็ตาม ญัตตินี้ยังสามารถเสนอได้ตามข้อบังคับข้อที่ 38 และเพื่อความชัดเจน ตนจะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป ส่วนประเด็นการประชุมลับนั้น เมื่อมีการถ่ายทอดสดอยู่แล้ว ก็ไม่ควรงดการถ่ายทอด

จากนั้นการอภิปรายได้เข้มข้นขึ้น โดย นายพีรพล กนกวลัย สก. เขตพญาไท ได้เสนอขอให้พักการประชุม ขณะที่ นายนภาพร จีระกุล สก. เขตบางกอกน้อย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงขอให้พักการประชุมเพื่อหารือนอกรอบ

น.ส.นฤนันท์มนต์ ได้ลุกขึ้นอภิปรายอีกครั้ง โดยอ้างข้อบังคับการประชุมข้อที่ 126 ว่าหากมีปัญหาในการตีความข้อบังคับ ให้สภาเป็นผู้ลงมติชี้ขาด

ด้าน นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ สก. เขตมีนบุรี ลุกขึ้นชี้แจงว่า การยื่นญัตติเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิก ประธานสภาฯ มีหน้าที่ต้องบรรจุเข้าระเบียบวาระ จะปฏิเสธไม่บรรจุไม่ได้ ส่วนจะพิจารณาเมื่อใดนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เกิดการโต้เถียงขึ้นเมื่อ นายสุรจิตต์ ชี้แจงว่า “ตนไม่ได้บอกว่าจะไม่บรรจุ แต่จะยังไม่บรรจุในวันนี้ เพราะขอตรวจสอบเอกสารก่อน”

นายวิรัตน์ ได้ลุกขึ้นประท้วงทันที โดยกล่าวว่า “เมื่อสักครู่ท่านประธานวินิจฉัยแล้วว่าไม่บรรจุ ทุกคนได้ยินหมด ถอดเทปฟังได้ ผมขอประท้วง ตามเอกสิทธิ์ของสมาชิก ท่านต้องบรรจุวาระก่อน ส่วนจะพักการประชุมหรือขอเวลาตรวจสอบเอกสาร เป็นสิทธิ์ของท่านที่จะทำทีหลัง”

ท้ายที่สุด นายสุรจิตต์ ได้ยืนยันว่า “ผมพูดชัดเจนว่าจะไม่บรรจุภายในวันนี้ แต่จะบรรจุในครั้งต่อไป” และได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 1 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า หลังจากนั้นได้มีประกาศจากเจ้าหน้าที่สภากทม. ว่า ขอเลื่อนเวลาพักไปอีก 1 ชม. จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.30 น. การประชุมสภาฯ จึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งตามปกติ และปิดการประชุมในเวลาประมาณ 16.30 น.