อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนกังวลไม่แพ้กระบวนการทางการแพทย์ก็คือการฝากไข่ราคาเท่าไหร่ ส่งผลให้กระบวนการนี้มักถูกมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวและอาจเกินงบประมาณ วันนี้เราจึงรวบรวมแนวทางการวางแผนค่าใช้จ่ายอย่างเป็นระบบมาแนะนำ เพื่อให้คุณตัดสินใจฝากไข่ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นนั่นเอง


ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่รวมราคาอะไรบ้าง ?

การฝากไข่ไม่ได้มีแค่ค่าดำเนินการในห้องปฏิบัติการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงขั้นตอนก่อนและหลังที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งสามารถแยกเป็นหมวดได้ดังนี้

  1. ค่าตรวจร่างกายเบื้องต้น
    รวมถึงการตรวจฮอร์โมน ความสมบูรณ์ของร่างกาย และการประเมินจำนวนไข่ (AMH, Ultrasound) เพื่อประเมินศักยภาพในการเก็บไข่
  1. ค่ายากระตุ้นไข่และค่าติดตามการตอบสนองของร่างกาย
    เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลา 10-14 วัน ต้องฉีดยาทุกวันและตรวจติดตามด้วยอัลตราซาวนด์เป็นระยะ ค่าใช้จ่ายจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับชนิดยาและปริมาณที่ใช้
  1. ค่าดูดเก็บไข่ (Egg Retrieval)
    เป็นหัตถการที่ต้องใช้วิสัญญีแพทย์และสูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการ โดยจะเก็บไข่ผ่านทางช่องคลอดด้วยเครื่องมือเฉพาะ
  1. ค่าทำให้ไข่สุกและแช่แข็ง (Maturation & Cryopreservation)
    หลังจากเก็บไข่เสร็จ ไข่ที่ได้จะถูกตรวจคุณภาพและแช่แข็งด้วยเทคโนโลยีเฉพาะเพื่อคงคุณภาพไว้ในระยะยาว
  1. ค่าเก็บรักษาไข่รายปี (Storage Fee)
    เป็นค่าบำรุงรักษาไข่ในไนโตรเจนเหลว โดยสามารถเก็บได้เป็นเวลานาน จนกว่าจะพร้อมตั้งครรภ์และมีบุตร


ฝากไข่มีราคาสูง วางแผนอย่างไรให้ไม่กระทบการเงิน ?

  • ประเมินงบประมาณโดยรวม : หากรวมทุกขั้นตอนแล้ว ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่จะอยู่ที่หลักหมื่นถึงหลักแสน ไม่รวมค่าฝากไข่รายปีในระยะยาว
  • เลือกฝากไข่ในช่วงที่เหมาะสมที่สุด : อายุที่เหมาะกับการฝากไข่คือช่วง อายุ 25–35 ปี เพราะร่างกายยังผลิตไข่คุณภาพดีและอาจใช้ยากระตุ้นไข่น้อยกว่า ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้
  • คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในอนาคต : เช่น ค่าเก็บรักษารายปี ค่าทำ IVF หรือ ICSI เมื่อถึงเวลาจะใช้งานไข่ ซึ่งควรรวมไว้ในแผนการเงินระยะยาวด้วย
  • เก็บออมล่วงหน้าแบบมีเป้าหมาย : หากตั้งเป้าอยากฝากไข่ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า การทยอยเก็บเงินรายเดือนจะช่วยลดภาระได้

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับคนที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

  • อย่ารีบตัดสินใจว่าการฝากไข่ราคาแพงก่อนเห็นรายละเอียดจริง เพราะสถานพยาบาลบางแห่งมีแพ็กเกจราคาพิเศษหรือโปรแกรมผ่อนจ่ายที่ช่วยให้เข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินจำนวนไข่และความจำเป็นในการใช้ยาก่อน เพราะปริมาณยากระตุ้นไข่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน
  • ถามข้อมูลเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมแฝง เช่น ค่าตรวจซ้ำ ค่าเก็บตัวอย่างซ้ำ ค่าปรึกษานอกแผน ฯลฯ ก่อนตัดสินใจ

แม้ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่จะไม่ใช่ตัวเลขเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินเอื้อม หากมีการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ การฝากไข่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มราคาเพื่อโอกาสในอนาคตที่สำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมมีลูกในช่วงวัยที่ไข่ยังมีคุณภาพดี หากคุณกำลังลังเลเพราะกลัวค่าใช้จ่าย วางแผนตั้งแต่วันนี้ จะช่วยให้คุณวางแผนมีบุตรได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน