สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ว่า หลังจากการเจรจาที่ยากลำบากเป็นเวลานานหลายเดือน สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศยึดมั่นตามเป้าหมายหลัก ตามการประกาศเมื่อปีที่แล้ว ในการลดการปล่อยก๊าซลงให้ได้ 90% ภายในปี 2583 เมื่อเทียบกับระดับเมื่อปี 2533
เป้าหมายปี 2583 ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากประเทศสมาชิกทั้ง 27 แห่ง และรัฐสภาของสหภาพยุโรป ถือเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายของกลุ่มประเทศที่ต้องการลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ภายในปี 2593
บรัสเซลส์ระบุว่า อียูลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงแล้ว 37% เมื่อเทียบกับปี 2533 แต่แผนงานสีเขียวของสหภาพยุโรป กลับมุ่งหน้าไปทางแนวคิดฝั่งขวา และความสงสัยต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มมากขึ้นในหลายประเทศ
By setting this target, we want to:
— European Commission (@EU_Commission) July 2, 2025
???? Ensure predictability and stability for investors
???? Strengthen industrial leadership
???? Guarantee energy security and resilience
???? Create more jobs
???? Drive innovation, prosperity, and competitiveness
เพื่อโน้มน้าวประเทศที่ไม่ยอมปฏิบัติตาม คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เสนอว่า ตั้งแต่ปี 2579 เป็นต้นไป ประเทศสมาชิกทุกแห่งจะสามารถนับคาร์บอนเครดิตที่ซื้อมา เพื่อระดมทุนสำหรับโครงการนอกยุโรปได้สูงสุดถึง 3% ของการปล่อยก๊าซ
อย่างไรก็ตาม นักรณรงค์ด้านสภาพอากาศแย้งว่า การนำเครดิตระหว่างประเทศมาพิจารณา เช่น การปลูกต้นไม้ หรือโครงการพลังงานหมุนเวียน มีความเสี่ยงที่จะบั่นทอนความพยายามของอียูในการเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล โดยนักวิจัยระบุว่า การชดเชย 3% ถือว่า “ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย” และอาจถือมากกว่าการนำเงินไปใช้ในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
ทั้งนี้ทั้งนั้น รมว.สิ่งแวดล้อมของประเทศสมาชิกอียู จะหารือถึงเป้าหมายดังกล่าวอีกครั้ง ในการประชุมช่วงกลางเดือน ก.ค. นี้ ก่อนการลงคะแนนเสียงที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 18 ก.ย. ที่จะถึง.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES