เมื่อวันที่ 21 พ.ย. พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก.สภ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมชุดลาดตระเวนตามแผนสกัดกั้นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจบริการประชาชนมะขามโพรง กองร้อย ตชด.146 ตม.ด่านสิงขร ฝ่ายปกครอง และชรบ.ประจำหมู่บ้าน เข้าควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมือง 12 คน เป็นชาย 7 คน และหญิง 5 คน จับกุมได้บริเวณริมถนนทางช่องทางธรรมชาติ ช่องหุบตาหลี หมู่ที่ 9 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนนำตัวแรงงานเถื่อนส่งศูนย์พักคอยวัดรัตนวิเวกคลองวาฬ หมู่ 6 บ้านด่านสิงขร เพื่อกักตัวตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ส่วนผู้นำพา 3 คน ได้จับกุมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีตามกฏหมาย

จากการสอบสวนทราบว่า แรงงานเถื่อนทั้งหมดเดินทางมาจากบ้านมูด่อง ตรงข้ามจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ซึ่งมีจุดพักคอยของนายทุนในพื้นที่ภายในหมู่บ้านเป็นชาวเมียนมาชุดเดียวกันที่หลบหนีเข้าเมือง 86 คน เมื่อสัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ยังพบด้วยว่ามีเพื่อนร่วมชาติที่บ้านมูด่องอีกจำนวนมาก ที่ทยอยเดินทางมารวมตัวจากหลายจังหวัด เตรียมเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงก่อนข้ามแดนหัวละ 500 บาท สำหรับการจ่ายค่านายหน้าให้ขบวนการค้าแรงงานเถื่อน หากไม่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยผลักดันออกหรือจับกุมระหว่างเดินทาง ก็จะจ่ายค่านำพาให้นายหน้าหัวละ 17,000 บาท

นายนิพนธ์ สุวรรณนาวา ประธานกิตติมศักดิ์สภาหอการค้าและสภาอุตสาหกรรม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานสนธิกำลังจับกุมแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ ทำให้เกินศักยภาพของสถานที่กักกัน 14 วัน ที่ ตชด.146 ด่านสิงขร นอกจากนี้ยังมองว่าอาจจะสิ้นเปลืองงบประมาณของรัฐ เนื่องจากแรงงานเถื่อนมีผู้ติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 10 หลังจากนำไปตรวจหาเชื้อโควิด 2 ครั้ง เลี้ยงอาหารครบ 3 มื้อ เป็นเวลา 14 วัน แล้วผลักดันกลับประเทศ หน่วยราชการต้องมีค่าใช้จ่ายหัวละมากกว่า 8,000 บาท แต่พบว่าบางรายกลับมาใหม่หรือบางรายไม่ได้กลับประเทศต้นทาง ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐทุกฝ่ายควรวางแผนแก้ไขปัญหาไม่ให้ต่างด้าวหลุดจากสันแดนเข้ามาในเขตชุมชนชั้นใน หรือควรเจรจากับทางการฝ่ายเมียนมา เพื่อสกัดกั้นการเดินทางออกนอกประเทศของแรงงานเถื่อน ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเป็นชุมชนกลุ่มน้อย

“ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดจับกุมต้นตอนายหน้าค้าแรงงานเถื่อน ที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงทั้งในและต่างประเทศ เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมามีเพียงการจับกุมที่ปลายเหตุ แต่ยังมีการใช้รถตู้ รถกระบะ รถบรรทุกไปถึงจังหวัดปลายทาง ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมีความต้องการใช้แรงงาน ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องผ่อนปรนให้มีการนำเข้าแรงงานถูกกฎหมาย เพื่อใช้ในภาคการผลิตเพื่อส่งออก ใช้แรงงานในพื้นที่การเกษตรและการประมง โดยอนุญาตให้เข้าประเทศเฉพาะผู้ใช้แรงงานเท่านั้น ไม่ควรมีผู้ติดตาม และควรให้แรงงานต่างชาติทุกรายทำประกันสังคม ทั้งนี้หากทางการไทยเปิดให้แรงงานเถื่อนลงทะเบียน คาดว่าจะมีนายจ้างทั่วประเทศนำแรงงานที่ลักลอบเข้าเมืองมาลงทะเบียนอีกกว่า 2 ล้านคน” ประธานกิตติมศักดิ์สภาหอการค้าและสภาอุตสาหกรรม จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าว