เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร คึกคักตั้งแต่เช้า มีเหล่ายูทูบเบอร์ข้างกายนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก และมีการไลฟ์สดตลอดเวลา ขณะที่อีกฝ่ายยูทูบเบอร์ ฝั่งนางสาวิตรี แม่น้องชมพู่ ก็มาให้กำลังใจบางตา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร มาคอยดูแลความปลอดภัย

จากกรณีคดีการเสียชีวิตของเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ได้หายจากบ้านพักวันที่ 11 พ.ค. 2563 และมีผู้พบศพในสภาพเปลือยบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านประมาณ 2 กม. เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2563 ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2564 อัยการจังหวัดมุกดาหาร ได้ยื่นฟ้องนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1.พรากผู้เยาว์ 2.ทำให้คนตายโดยเจตนา ปล่อยปละละเลยให้เด็กจนถึงแก่ความตาย 3.ดัดแปลงสภาพศพ และ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น 1 ข้อหา คือดัดแปลงสภาพศพในคดีน้องชมพู่

โดยในวันนี้ศาลจังหวัดมุกดาหาร นัดตรวจพยานฝ่ายโจทก์ ประกอบด้วยอัยการจังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีพยานทั้งหมดประมาณ 62 ปาก ส่วนฝ่ายโจทก์ร่วม ได้แก่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ และนายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อน้องชมพู่ มีพยานประมาณ 5 ปาก

‘ป้าแต๋น’รับทราบข้อหาคดีน้องชมพู่ รับกังวลคิดไม่ถึงจะโดนเอี่ยว-ยันบริสุทธิ์

ส่วนฝ่ายจำเลย มีนายไชย์พล นางสมพร พร้อมด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นายรัชพล ศิริสาคร นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ  ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อตรวจพยานในคดีดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการโทรศัพท์สอบถามนายอัจฉริยะ กล่าวว่า พยานฝ่ายโจทก์ และพยานฝ่ายจำเลย มีอยู่ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย  1. พยานทางครอบครัวโจทก์ และพยานครอบครัวฝ่ายจำเลข 2. พยานนักวิชาการ และพยานนิติวิทยาศาสตร์ (ซินโคตรอน) 3. พยานชาวบ้านทั่วไป 4. พนักงานสอบสวน อัยการจังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่เกิดเหตุ

กระทั่งเวลา 12.30 น.นายรัชพล  กล่าวว่า ทางอัยการมีพยานบุคคลประมาณ  62 ปาก ส่วนทางจำเลยพยานบุคคล 32 ปาก และซ้ำกับทางฝ่ายโจทก์ 8 ปาก เหลือ 24 ปาก ซึ่งในวันนี้ไม่สามารถที่จะตรวจได้ครบทั้งหมด ศาลก็เลยบอกว่า ทางโจทก์กับจำเลยกลับไปทำการบ้าน สรุปมาหน่อยว่า แต่ละปากมีความสำคัญอย่างไร และมาดูอีกทีว่า ติดใจปากไหน ปากไหนไม่ติดใจ จะเป็นนัดหน้าอีกทีหนึ่ง และตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 8 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น.

ทั้งนี้พยานแต่ละคนต้องกลับไปทำการบ้าน พยานแต่ละคนมีความสำคัญอย่างไร ที่ต้องนำมาสืบ ต้องนำคำร้องมาที่ศาล ส่งภายใน 31 มกราคม 2565 พอ 31 มกราคม ศาลก็จะทำการตรวจพยานแต่ละคน สำหรับคดีนี้ตอนแรกก็มีความกังวลใจว่า มีคนเห็นหรือไม่เพราะว่ามีการตั้งข้อกล่าวหา พรากผู้เยาว์ขึ้นมาน่าจะมีคนเห็น ตั้งข้อหานี้ได้อย่างไร ในวันนี้ทราบแล้วมันไม่มีพยานก็ทำให้สบายใจขึ้น พยานสำคัญก็กังวล แต่ก็ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ในเรื่องพยานหลักฐานค่อนข้างกังวล และในวันนี้ขบวนการเสร็จแล้ว ทางลุงพลก็จะมารับเอกสารด้วยตัวเอง เพราะเอกสารเยอะมาก คาดคดีปี 65 น่าจะเสร็จในศาลชั้นต้น