จากกรณี นายวานิช หอมเขียว หรือ จิงโจ้ ช่างแต่งหน้า วัย 27 ปี เจ้าของร้านเรือนเจ้าสาว เลขที่ 108/8 ถนนเณรแก้ว ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โพสต์คลิปแต่งหน้าเจ้าสาวในเพจเฟซบุ๊ก ร้านเรือนเจ้าสาว ให้กับ น.ส.อรธีรา รสหอม อายุ 27 ปี ว่าที่เจ้าสาวชาว จ.ชัยนาท ซึ่งเคยประสบอุบัติเหตุถูกไฟคลอกจนหน้าตาเสียโฉมไม่เหมือนคนเดิม กลับมาสวยงามดังเนรมิตสร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านเรือนเจ้าสาว พบกับ นายวานิช เจ้าของร้าน กล่าวว่า ตนนั้นทำงานในอาชีพช่างแต่งหน้ามาเป็นเวลา 7 ปี และได้รับการติดต่อผ่านเพจร้านเรือนเจ้าสาว ให้แต่งหน้าพร้อมถ่ายพรีเวดดิ้งให้กับ น.ส.อรธีรา ซึ่งเจ้าสาวได้เล่าให้ฟังว่า ตนประสบอุบัติเหตุมาเมื่อตอนอายุ 13 ปี ถูกไฟคลอกและรอดชีวิตมาได้จึงมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า แขนขา และศีรษะไม่มีผมครึ่งหนึ่ง จากนั้นทางร้านจึงได้ประชุมทีมงานว่า จะให้ลูกค้าออกมาในรูปแบบไหนเพื่อที่จะถ่ายพรีเวดดิ้งในวันถัดไป
เมื่อถึงวันถ่ายพรีเวดดิ้งลูกค้ามาเปิดแผลให้ดูทำให้ทีมงานมีความรู้สึกว่ากังวลนิดหน่อย เนื่องจากแผลค่อนข้างใหญ่ แต่ก็คิดว่าไม่เกินความสามารถ หลังเสร็จภารกิจทั้งลูกค้าและทางร้านแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย โดยน.ส.อรธิรา พอใจมากและเกินความคาดหมายของเขา ไม่คิดว่าจะทำได้ขนาดนี้ และไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ได้แต่งงาน คำนี้จึงเป็นจุดที่ทำให้ทีมงานมีแรงบันดาลใจ มีแรงฮึดว่าเราต้องทำลูกค้าเคสนี้ให้เต็มที่ ให้สมหวังและสวยที่สุด ตามที่เขามุ่งหวังไว้
นายวานิช กล่าวต่อว่า เคสแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน และเจ้าสาวคนนี้เป็นคนน่ารัก มีกำลังใจ และพลังบวกมาก ตนจึงตั้งใจแต่งหน้าทำผมให้เจ้าสาวอย่างสุดฝีมือ ใช้เทคนิคการลงสี และเทคนิคการปกปิดรอยบกพร่อง รอยแผลเป็น มีการผสมผสาน การใช้สีและการตกแต่งบนใบหน้าเพื่อทำให้ใบหน้าออกมาให้สวยที่สุด ส่วนด้านผม เจ้าสาวมีผมครึ่งศีรษะ เราก็มีการใส่วิกผม และจัดทำทรงผมให้เข้ากับใบหน้าจนเนรมิตเจ้าสาวออกมาอย่างสวยงามจำแทบไม่ได้ ซึ่งเจ้าสาวชื่นชอบในผลงานและอนุญาตให้โพสต์คลิปดังกล่าว
ด้าน น.ส.อรธิชา ว่าที่เจ้าสาว กล่าวว่า ปัจจุบันทำงานอยู่ที่สำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท สาเหตุที่เสียโฉมเนื่องจากประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 11 ต.ค.51 ตอนนั้นอายุ 13 ปี อุบัติเหตุครั้งนั้นตนซ้อนรถท้ายจยย.มากับเพื่อน และถูกรถสิบล้อเฉี่ยวชนและลากทั้งรถทั้งคนไปจนถูกไฟคลอกและรอดชีวิตมาได้จึงมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าและศีรษะ ไม่มีผมครึ่งหนึ่ง ก็ไม่รู้สึกท้อแท้ชีวิตแต่อย่างใด จนกระทั่งได้พบรักกับเจ้าบ่าวเป็นชาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี จึงได้ตกลงปลงใจเข้าพิธีวิวาห์ในปีหน้า คือวันที่ 12 มี.ค.65 จึงเข้าไปค้นหาร้านเกี่ยวกับชุดเจ้าสาว พรีเวดดิ้ง จนพบร้านเรือนเจ้าสาว และเข้าไปส่องดูผลงานพบว่ามีอยู่รายหนึ่งที่ทางร้านสามารถแก้ไขแต่งหน้าเจ้าบ่าวรายหนึ่งที่หน้าผากกว้างจนดูสวยงาม จึงตัดสินใจว่าจ้างร้านดังกล่าว ผลออกมานึกไม่ถึงว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก และเกินที่คาดเอาไว้จริง ต้องขอบคุณทางร้านที่เอาใจใส่ดูแลอย่างดี ไม่ผิดหวังจริงๆ
