นับตั้งแต่เดินทางถึงประเทศไทย ค่ำคืนวันที่ 4 ธ.ค.นี้ แฟนนางงามจะได้ร่วมแสดงความยินดีกับ “MGI คนที่ 9 ของโลก” ในการประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 รอบตัดสิน ซึ่งจัดขึ้น ณ โชว์ดีซี ฮอลล์ ศูนย์การค้าโชว์ดีซี พระรามเก้า บรรยากาศการประกวดโค้งสุดท้าย เต็มไปด้วยความคึกคัก ท่ามกลางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 มีการตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิร่างกาย ซึ่งผู้ที่ผ่านเข้าชมงานได้ต้องมีประวัติรับวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเท่านั้น ถ่ายทอดสดผ่าน Youtube Channel : Grand TV

เปิดเวทีด้วยโอเพนนิ่ง โชว์ ที่เรียกเสียงฮือฮาของ อาบีน่า อาคูบา  มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 “โน ลิปซิงค์ โน สแตนด์อิน” โหนสลิง เพื่อถ่ายทอดคอนเซ็ปต์ “ไรส์ อัพ” ที่มีความหมายสื่อถึงโลกที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกคนมีสภาพเหมือนจมดิ่งอยู่ในโลกใต้น้ำมาตลอด 2 ปี แต่วันนี้แสงสว่างกลับมาอีกครั้ง อาบีน่า ร้องเต้นร่วมกับสาวงามผู้เข้าประกวดทั้ง 60 ประเทศ ที่มาแนะนำตัวทุกคนได้อย่างสุดประทับใจ

พิธีกรประกาศผลผู้ชนะชุดประจำชาติยอดเยี่ยม 3 รางวัลได้แก่ มาเลเซีย เปรู และแองโกลา จากนั้นประกาศผลผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย ได้แก่ คอสตาริกา, เอกวาดอร์, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, มาเลเซีย, บราซิล, อินเดีย, โคลัมเบีย, เมียนมา, เนเธอร์แลนด์, ไนจีเรีย, เยอรมนี, อินโดนีเซีย, สเปน, โดมินิกัน, เวียดนาม, ปวยร์โตรีโก, เวเนซุเอลา, แอฟริกาใต้ และแองโกลา ออกมาอวดโฉมและรูปร่างที่งดงามในชุดว่ายน้ำทู-พีซ สีสันสดใส ก่อนประกาศผู้คว้ารางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม ได้แก่ มิสแกรนด์ปวยร์โตรีโก

กองเชียร์ลุ้นระทึกเมื่อพิธีกรเปิดผลและประกาศผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ได้แก่ ซึ่ง 9 สาวงาม มาจากคณะกรรมการ ได้แก่ เวเนซุเอลา, คอสตาริกา, อินโดนีเซีย, สเปน, แอฟริกาใต้, ปวยร์โตรีโก, เวียดนาม, บราซิล, เอกวาดอร์ และอีก 1 มิสแกรนด์กัมพูชา ผู้ชนะจากคะแนนโหวต ผู้เข้ารอบทั้ง 10 คน กล่าวสุนทรพจน์ รณรงค์แคมเปญ “stop the war and violence” ยุติสงครามและความรุนแรงทุกรูปแบบ อันเป็นหัวใจหลักของเวทีมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล

การประกวดเดินทางมาถึงช่วงเวลาสำคัญกับการอำลาตำแหน่งของ อาบีน่า อาคูบา แอพเพียร์  มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 ต่อมาสาวงามได้เพิ่มความอลังการให้กับเวทีในการประกวดรอบชุดราตรียาว พร้อมประกาศรางวัลชุดราตรียอดเยี่ยม ได้แก่ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ นางงามทุกคนกลับออกมาอีกครั้งเพื่อร่วมเฉลิมฉลองให้กับ “ประเทศเจ้าภาพ” จัดการประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่น 2022 ซึ่งก็คือ ประเทศอินโดนีเซีย

บรรยากาศยิ่งตื่นเต้นเมื่อพิธีกรประกาศสาวงามผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ได้แก่ ปวยร์โตรีโก, เอกวาดอร์, บราซิล, เวียดนาม และแอฟริกาใต้ สู่ช่วงการตอบคำถาม ซึ่งจะเป็นผลชี้วัดว่านอกจากความสวยพร้อม รูปร่าง หน้าตาแล้ว “สมอง และ ไหวพริบ” ของพวกเธอก็ไม่เป็นรอง แล้ววินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เสียงกองเชียร์ดังกระหึ่มฮอลล์ พิธีกรประกาศรางวัล รองอันดับ 4 ได้แก่ น.ส.จีน แวน แดม มิสแกรนด์แอฟริกาใต้ รองอันดับ 3 ได้แก่น.ส.วิเวียนนี่ ดิแอซ อาโรโย มิสแกรนด์ปวยร์โตรีโก รองอันดับ 2 ได้แก่ น.ส.ลอรีน่า โรดดิเกส มิสแกรนด์บราซิล

เหลือสาวงามเพียง 2 คน ยืนจับมือลุ้นระทึกตอบคำถามสุดท้าย พิธีกรประกาศตำแหน่งรองอันดับ 1 ตกเป็นของ น.ส.แอนเดรีย วิกตอเรีย อะคูเลร่า มิสแกรนด์เอกวาดอร์ และต้อนรับ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 ตกเป็นของ น.ส.เหงียน ตุ๊ก ตุย เตียน มิสแกรนด์เวียดนาม สวมมงกุฎ สายสะพาย โดย มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 และรองทั้ง 4 จะปฏิบัติภารกิจร่วมกับองค์กร มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ตลอด 1 ปีเต็ม

ทั้งนี้ น.ส.เหงียน ตุ๊ก ตุย เตียน มิสแกรนด์เวียดนาม กล่าวสุนทรพจน์ รณรงค์แคมเปญ “stop the war and violence” ยุติสงครามและความรุนแรงทุกรูปแบบ อันเป็นหัวใจหลักของเวทีมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ว่า ทุกๆ สงครามที่เกิดขึ้น คือการต่อสู้ระหว่างปีศาจและนางฟ้าที่แสนอันตราย ทว่าพวกเราสามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อควบคุมมันได้ พ่อแม่ของฉันบอกกับฉันว่าสิ่งสำคัญคือเราควรรู้ว่ารักคืออะไรและจะแบ่งปันไปสู่ผู้อื่นได้อย่างไร ความรักและการเห็นอกเห็นใจกันจะเป็นสิ่งที่ทำให้สงครามไม่เกิดขึ้น ฉันเชื่อว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนแปลงโลกได้และพวกเราทุกคนก็สามารถเป็นฮีโร่ได้ด้วยความรักและความงามนี้ ก่อนทิ้งท้ายเป็นภาษาไทยว่า “ทำให้โลกเป็นที่ทีดีขึ้นกว่าเดิมสำหรับทุกคน” พร้อมกับชูสามนิ้ว

และตอบคำถามรอบ 5 คนสุดท้ายที่ว่า ด้วยสถานการณ์โลกปัจจุบันมีปัญหามากมาย เช่น สิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจ ถ้าคุณสามารถเลือกคนเพียงคนเดียว ที่จะหารือเกี่ยวกับปัญหาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง คุณจะเลือกคุยกับใครและทำไม? โดยมิสแกรนด์เวียดนาม เผยว่า “ฉันอยากจะบอกขอบคุณคนที่ผลิตวัคซีนต่างๆ เช่น แอสตร้าเซเนก้า เพราะว่าหล่อนไม่เอาเงิน ฉันอยากจะขอบคุณผู้หญิงคนนั้นเพื่อทุกคนได้รู้ว่ารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมากกับคนอย่างนี้ บางทีคนเราต้องทำในสิ่งที่ดี โดยไม่ต้องรับเครดิตจากมัน.