เมื่อวันที่ 14 ก.ค. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร. (สบ 8) ปฎิบัติราชการ บช.น. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี รอง ผกก.5 บก.ปอศ. พร้อมกำลังตำรวจ บก.สส.บช.น. และ บก.ปอศ. นำหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค.118/2564 ลงวันที่ 13 ก.ค. เข้าตรวจค้นบริษัทเอ๊กซ์เพียว จำกัด ภายในอาคารริเวอร์วิว เพลส พระราม 3 ซอย 46 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบเปิดใช้เป็นสำนักงานของเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ แอพพลิเคชั่น “แมงโก้โลน” (mango loan) และ โคโค่โลน (coco loan)

บริษัทดังกล่าว อยู่บริเวณชั้น 2 ของอาคารลักษณะเป็น 4 ห้องติดกัน ภายในมีการดัดแปลงเป็นสำนักงาน มีกลุ่มพนักงานเป็นชาย 4 คน และหญิง 2 คนกำลังนั่งทำงานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงกลุ่มพนักงานดังกล่าวพยายามวิ่งหลบหนี แต่ถูกจับกุมเอาไว้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่กระจายอยู่ตามห้องต่างๆ ได้จำนวน 30 เครื่อง พร้อมกับเอกสารบัญชีรายชื่อลูกค้าที่กู้ยืมเงิน โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง และซิมโทรศัพท์อีกจำนวนมาก

ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจได้รับร้องเรียนมีแก๊งเงินกู้ออนไลน์แอพพลิเคชั่นดังกล่าว เข้ามาเช่าอาคารพาณิชย์ลักลอบเปิดใช้เป็นสำนักงาน จึงลงพื้นที่สืบหาเบาะแสกว่า 2-3 เดือน จึงรวบรวมพยานหลักฐานหมายค้น เข้าตรวจค้นจับกุม สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าว จะเปิดแอพพลิเคชั่นขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อกับลูกค้าให้เข้ามาติดต่อกู้เงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่มีความเดือดร้อนทางการเงิน โดยกู้ 1,700 บาท ต้องผ่อน 7 วัน โดยเป็นดอกเบี้ย 2,910 บาท ส่งวันละ 415 บาท

นอกจากนี้ยังพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงมีการติดตามทวงหนี้โดยลักษณะก่อกวนและข่มขู่ หากใครไม่ชำระหนี้ครบตามเวลาก็จะส่งข้อความไปให้กับบุคคลใกล้ชิด เพื่อประจานให้เกิดความอับอาย เนื่องจากในทางเทคนิคพบว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวมีการฝังโปรแกรมสปายเพื่อดูดข้อมูลในโทรศัพท์ และข้อมูลสำคัญด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.ธีระชัย กล่าวว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าวมีนายทุนเป็นชาวจีน ทำมานานกว่า 1 ปี ที่ผ่านมามีการย้ายสถานที่สำนักงานมาแล้วหลายแห่งเพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ก่อนจะย้ายมาตั้งออฟฟิศที่พระราม 3 นานกว่า 2 เดือน โดยพนักงานส่วนใหญ่ที่จับกุมได้ในวันนี้ จะเป็นพนักงานที่ทำหน้าที่โทรฯ ติดตามเร่งรัดหนี้สินจากลูกค้า

จากการสอบสวนนายทศพร ยงเกียรติกานต์ อายุ 38 ปี ผู้จัดการบริษัทให้การว่า ตนมีหน้าที่ในการควบคุมดูแลพนักงานทั้งหมดให้ทวงหนี้ โดยเฉลี่ยต่อคนจะทวงหนี้ลูกค้า 40-50 คนต่อวัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีฐานเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และความผิดประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน ปี 2551 ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดได้นั้น หลังจากนี้จะประสาน บก.ปอศ.เข้าตรวจสอบข้อมูล เพื่อนำขยายผลเอาผิดกลุ่มนายทุนที่แท้จริง และผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ ต่อไป.