เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สภาพอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 9-10 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าหนาวสุดในรอบปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านหลายพื้นที่ประสบภัยหนาว แต่สำหรับชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า ถือเป็นช่วงฤดูกาลสำคัญ เป็นโอกาสทอง เนื่องจากเป็นหมู่บ้านอาชีพแปลกที่เดียวในไทย โดยในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือน พ.ย. ไปจนถึงสิ้นสุดฤดูหนาว ชาวบ้านแห่งนี้ กว่า 200 ครัวเรือน จะเริ่มทำอาชีพแปลก นำไส้เดือนแปรรูปตากแห้ง ขายส่งออกต่างประเทศ ปลายทางส่งไปประเทศจีน และไต้หวัน เชื่อว่าเพื่อนำไปปรุงเป็นยาชูกำลัง ตามความเชื่อ ทำให้ชาวบ้านจะออกไปเก็บไส้เดือนตามพื้นที่การเกษตร รวมถึงไปรับซื้อจากชาวบ้านที่นำมาขาย เนื่องจากธรรมชาติของไส้เดือนในช่วงอากาศหนาว มีหมอกปกคลุม ไส้เดือนจะมีการเคลื่อนย้ายที่อยู่ไปหาพื้นที่ดินที่มีความชุ่มชื้น เพื่ออาศัยในช่วงฤดูแล้ง ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการเก็บไส้เดือนสดขาย ในราคากิโลกรัมละประมาณ 15-20 บาท เพื่อนำส่งให้พ่อค้า แม่ค้า ก่อนนำไปแปรรูปด้วยวิธีภูมิปัญญาชาวบ้าน ชำแหละ ก่อนนำไปตากแห้ง และนำส่งขาย ในราคากิโลกรัมละ 250-300 บาท และมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อไม่อั้น บางครอบครัวขยันสามารถร้างรายได้เดือนละนับแสนบาท โดยอาชีพแปลกแปรรูปไส้เดือนขาย ถือเป็นอาชีพแปลกที่สร้างเงินหมุนเวียนสะพัดในพื้นที่ปีละนับ 100 ล้านบาท

จากการสอบถามชาวบ้าน ระบุว่า สำหรับชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ถือเป็นหมู่บ้านที่มีอาชีพสุดแปลก ที่เดียวในไทย จะมีอาชีพแปลกหมุนเวียนตามฤดูกาลทำมาเกือบ 20 ปี ในช่วงฤดูหนาว จะทำอาชีพแปรรูปไส้เดือนตากแห้ง ส่งขายต่างประเทศไปจีน ไต้หวัน โดยก่อนนี้มีแค่ชาวบ้านบางกลุ่ม ได้มาส่งเสริม รับซื้อ ก่อนจะขยายวงกว้าง เกือบทั้งหมู่บ้าน หมดจากฤดูหนาว เข้าสู่ฤดูแล้ง จะมีอาชีพเสริมตามฤดูกาลคือ ซื้อตุ๊กแกมาชำแหละตากแห้งส่งออกขาย พอถึงฤดูฝนจะเป็นปลิงตากแห้ง ซึ่งจะมีพ่อค้าคนกลางมาซื้อสต๊อกไว้ส่งขาย โดยช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบบางส่วนในเรื่องการส่งออกช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้รายได้ลดลง แต่ในช่วงนี้เริ่มสามารถส่งออกขายได้ ทำให้เป็นหมู่บ้านที่ทำอาชีพแปลก หลังว่างเว้นจากการทำไร่ทำนา จะหันมาทำอาชีพแปลก ที่เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ เงินหมุนเวียนสะพัดปีละกว่า 100 ล้านบาท.