จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ (10 ธ.ค.) นายขวัญชัย มีลาภ อายุ 30 ปี ชาวร้อยเอ็ด ได้นำคลิปกล้องวงปิดที่บันทึกเหตุการณ์ขณะที่ตนเองถูกชายหัวเกรียนขาเป๋ขับรถฟอร์จูนเนอร์ใช้อาวุธปืนไล่ยิงจนต้องขับหนีตายเข้าไปหลบที่บ้านพัก เหตุเกิดซอยข้างหมู่บ้านลัลลี่วิลล์ ซอยมังกรนาคดี หมู่ 5 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังจากนั้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ แต่ตำรวจให้หาหลักฐานเองเพราะไม่มีใครไปหาหลักฐานให้ ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก. สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ชี้แจ้งในเรื่องดังกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน เรื่องแรกในส่วนของการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุขณะนี้ได้เร่งรัดให้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกสืบสวนติดตามหาเบาะแสของผู้ก่อเหตุว่าเป็นใคร โดยมีการกระจายกำลังออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุขับรถติดตามผู้เสียหายและเส้นทางหลบหนี ก็ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งยังขออนุญาตไม่เปิดเผยถึงรายละเอียด เกรงว่าจะส่งผลเสียต่อรูปคดี คาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้

หนุ่มขับกระบะถูกชายหัวเกรียนไล่ยิงถึงบ้าน เข้าแจ้งความ ตร.ไล่ไปหาหลักฐานเอง

ส่วนของการรับแจ้งความของพนักงานสอบสวน ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวแล้ว โดยมีรองผู้กำกับการสอบสวนเป็นประธานในการตรวจสอบ ซึ่งในเรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจและเป็นนโยบายหลักของท่าน ผบ.ตร. และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เน้นในเรื่องของการให้บริการให้กับผู้ที่มาแจ้งความ โดยเฉพาะในสถานีตำรวจต้องได้รับความสะดวก เรื่องนี้ทางคณะกรรมการก็จะรีบดำเนินการสรุปผลให้ทราบ ทำความจริงให้กระจ่างโดยเร็ว ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด ซึ่งเรามีเรื่องของการลงโทษมีระเบียบมีกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ไม่มีการปกป้องกันอยู่แล้ว ในส่วนนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังเปิดเผยไม่ได้เกรงว่าจะเป็นการชี้นำ ก็ขอให้ผลการตรวจสอบออกมาเสียก่อนถึงจะสรุปได้.