นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้จัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง ดาวรุ่งในปี 65 โดยพิจารณาจาก ยอดขาย ต้นทุน กำไร ผลกระทบปัจจัยเสี่ยงและการแข่งขัน ความต้องการกระแสนิยม พบว่า ธุรกิจอันดับ 1 ธุรกิจบริการทางการแพทย์ และความงาม และอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากได้อานิสงส์จากสถานการณ์โควิด-19 อันดับ 2 ธุรกิจแพลตฟอร์ม อันดับ 3 ธุรกิจโลจิสติกส์ดิลิเวอรี่ และคลังสินค้า, ธุรกิจฟินเทค และการชำระเงินฝากระบบเทคโนโลยี  

อันดับ 4  ธุรกิจประกันภัย และประกันชีวิต, ธุรกิจเวชภัณฑ์ ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์ และทางการแพทย์, ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ อันดับ 5 ธุรกิจขายตรง อันดับ 6 ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป อันดับ 7 ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ธุรกิจ ยูทูบเบอร์ และการรีวิว, ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ เช่น อาหารสัตว์ การดูแลสุขภาพสัตว์, อันดับ 8 ธุรกิจบรรจุภัณฑ์, ธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่ อันดับ 9 ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วน และอันดับ 10 ธุรกิจเพื่อความบันเทิง, ธุรกิจก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์แนวราบ, ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจท่องเที่ยว และบริการต่อเนื่อง

ส่วนธุรกิจดาวร่วง ปี 65 คือ อันดับ 1 ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน และเครื่องโทรสาร อันดับ 2 ธุรกิจฟอกย้อม ธุรกิจหัตถกรรมที่ไม่มีการออกแบบและราคาถูก อันดับ 3 ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และวารสาร, ธุรกิจรับส่งสื่อสิงพิมพ์ตามบ้านและสถานที่ทำงาน อันดับ 4 ธุรกิจโรงพิมพ์ การพิมพ์ เช่น หนังสือ แผ่นพับ ธุรกิจคนกลาง อันดับ 5 ธุรกิจผลิตและขายต้นไม้ ดอกไม้ประดิษฐ์, ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ไร้ฝีมือ หรือเสื้อผ้าโหล อันดับ 6 ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา เซรามิก อันดับ 7 ธุรกิจร้านถ่ายรูป อันดับ 8 ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ อันดับ 9 ธุรกิจของเล่นเด็ก อันดับ 10 ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์

“กลุ่มธุรกิจที่โดดเด่น จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจความรวดเร็ว ความเป็นเมืองกลับมา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความสะดวกสบาย คนจะห่วงสุขภาพ และความงามมากขึ้น อะไรที่เป็นดาวร่วง ส่วนใหญ่จะไม่ใช่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความโมเดิร์น ที่ไม่ใช้มือถือ และการค้าขาย ต่อไปจะเป็นเฉพาะกลุ่มคนมากขึ้น”

ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจปีหน้า ภาคการส่งออก คาดว่า เพิ่มขึ้น 5% ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 4-4.5% ซึ่งตอนนี้ต้องรอดูโครงการที่ภาครัฐจะออกมา โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 จะออกมาเมื่อไร โดยคาดว่า เศรษฐกิจจะฟื้นประมาณ ไตรมาส 2 ปีหน้า และจะฟื้นอย่างโดดเด่นช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 ไตรมาส และปรับขึ้นดอกเบี้ยไตรมาส 4 ปีหน้า และการที่ผู้ติดเชื้อลดลง จะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวไทย คาดว่า นักท่องเที่ยวจะกลับมา 5 ล้านคน กำลังซื้อต่างๆ จะเริ่มกลับมา