จากกรณีเพจของทางร้าน กิ่งแก้วซีฟู๊ด ออกมาโพสต์ข้อความ เตือนภัย!! ผู้ประกอบการ ร้านบุฟเฟ่ต์โดยระบุว่า คุณยายทั้งสองไม่น่าทำแบบนี้เลย วันนี้คุณยายทั้งสอง มาทานร้านเราอีกครั้ง เราก็ดีใจที่คุณยายมาทานบ่อย ไม่เคยคิดที่จะจับตามอง เพราะคิดว่า คุณยายชอบทานอาหารทะเล แต่แล้วความจริงก็ปรากฏ คุณยายขโมยของเรากลับบ้าน เป็นจำนวนมาก โดยเตรียมกล่องมาจากบ้านอย่างดี เอากลับเยอะจนคุณลูกค้าหลายโต๊ะ สงสารร้าน มากระซิบบอก

เราจึงแอบดูกล้องวงจร แล้วจริงด้วย ทางร้านตกใจมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ไม่อยากเรียกตำรวจ ตัดสินใจเดินไปบอกให้หยุด คุณยายออกอาการโมโหใส่ แล้วอ้างว่า ท้องเสีย จะเอากลับไปกินที่บ้าน แต่คุณยายนั่งนานและไม่เห็นมีอาการท้องเสียแต่อย่างใด รู้สึกเสียใจมาก อย่าไปทำแบบนี้ กับร้านไหนอีกนะคะ สุดท้าย ทางร้านก็ไม่ได้ดำเนินคดี และ คุณยายก็รีบเดินออกหนีออกไป

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้าน กิ่งแก้ว ซีฟู๊ด ซึ่งตั้งอยู่ปากซอย กิ่งแก้ว 52/1 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้ไปพูดคุยกับ นายสิริภพ สถาพร ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน จึงพานักข่าวไปดูโต๊ะที่คุณยายคน มานั่งทานในร้านแล้วก่อเหตุแอบโกยปู และกุ้ง ใส่พาชนะที่เขาเตรียมมา

โดยนายสิริภพ เล่าว่า จากการสอบถามพนักงานของทางร้านทราบว่า สองคุณยายเข้ามาใช้บริการตั้งแต่บ่ายโมง จนกระทั่งถึงเวลา 17.30 น. ได้มีลูกค้าเดินมาบอกกับตนว่าโต๊ะคุณยายได้แอบนำปูและกุ้งใส่กระเป๋าจำนวนมาก พี่ชายตนเองจึงเดินไปเปิดกล้องวงจรปิดดูพฤติกรรมของสองคุณยาย พบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวจริงพี่ชายจึงเฝ้าสังเกตการณ์ผ่านทางกล้องวงจรปิดต่อเนื่องนานเกือบชั่วโมง

จากนั้นทางร้านจึงปรึกษากันและตัดสินใจ เดินไปพูดคุยและตรวจสอบที่โต๊ะคุณยายทั้งสอง และเมื่อเปิดถุงและกระเป๋าดูถึง กับตกใจกับปริมาณปูและกุ้งจำนวนมากที่สองคุณยายแอบโกยกลับบ้าน ในระหว่างที่ตนไปล้างมือ และเป็นจังหวะที่คนเริ่มชุลมุนคุณยายทั้งสองได้เดินหนีไป

ด้าน ภรรยาของทางเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นคนที่เดินไปพูดคุยกับทางคุณยาย เล่าว่า พอเดินไปถึง ตนเองก็ยกมือไหว้คุณยายทั้งสอง แล้วแจ้งว่า พอดีทางร้านดูกล้องวงจรปิดเห็นว่าคุณยายเหมือนเอาของกลับบ้าน ทางเราขออนุญาตตรวจสอบหน่อย ให้คุณยายช่วยเอากระเป๋าขึ้นมาให้ตรวจสอบหน่อย แต่คุณยายกลับมีอารมณ์ฉุนเฉียวเมื่อถูกจับได้และพยายามบอกว่า จะขอเคลียร์เองจะเอากลับไปคืนไว้ที่เดิม ซึ่งตนเองก็อธิบายว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการหยิบจับอาหารแล้ว จะไม่ปลอดภัยกับลูกค้าท่านอื่น

กระทั่งสามีเดินทางมาถึงร้านจึงมาช่วยตรวจสอบพอเห็นของก็ถึงกับตกใจ และสิ่งที่คาดไม่ถึงคือพบว่าคุณยายทั้งสองเตรียมตัวมาโกยอย่างดี ทั้งกระเป๋าล้อลาก กระเป๋าถือ ถุงพลาสติก กล่องพลาสติก นอกจากนั้นยังมีถังและแก้วที่เตรียมมาใส่น้ำแข็งของทางร้าน เพื่อเตรียมไว้ฟิตแช่แข็งกุ้งและปูที่เตรียมเอากลับด้วย หลังจากการอาจจะต้องมีการตรวจสอบลูกค้า แต่ก็จะไม่ตรวจลูกค้าทุกราย แต่จะเป็นบางรายเท่านั้นที่ดูแล้วน่าสงสัย

‘2ยาย’กินบุฟเฟ่ต์ทะเล แอบโกยปู-กุ้ง 4 โล ใส่กล่อง ทำเป็นโมโหบอกท้องเสีย

ทั้งนี้ ตนเองไม่ได้แจ้งความเอาเรื่องคุณยายทั้งสองแต่อย่างใด แต่ที่ออกมาเผยแพร่เรื่องดังกล่าวเพื่อไม่อยากให้สองคุณยายไปทำกับร้านไหนอีก รวมถึงลูกค้าท่านอื่นที่คิดจะทำหรือเคยทำกับร้านบุฟเฟ่ต์ ในลักษณะเช่นนี้ไม่ว่าจะร้านตนเองหรือร้านไหน ก็ขอให้เห็นใจทางร้านบ้าง โดยเฉพาะร้านที่เน้นของสดใหม่ทุกวัน จึงทำให้ต้นทุนค่อนข้างสูง เมื่อทางร้านให้ใจกับทางลูกค้าได้ทานของดีมีคุณภาพและสมกับราคาแล้วลูกค้าก็ควรให้ใจกับทางร้านด้วยเช่นกัน ด้วยการไม่แอบโกยอาหารกลับบ้านหรือทานเหลือในปริมาณจำนวนมาก