ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่ร้านกุ้งโมบาย จำหน่ายและซ่อมโทรศัพท์มือถือ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง หลังเกิดเหตุคนร้ายมีอาวุธปืนบุกเข้ามาในร้าน แต่เจอสาวเจ้าของร้านใช้สติกล่อมโจรนานเป็นชั่วโมงจนคนร้ายยอมก้มกราบเท้าขอขมา แต่เรื่องราวไม่จบแค่นั้น ต่อมาโจรโทรหาใครบางคนที่คาดว่าจะสั่งการให้ลงมือก่อนจะหันมาใช้ปืนตบหน้าเจ้าของร้านจนได้รับบาดเจ็บ และชิงเงินสด 3 พันบาท และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง หลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา

น.ส.อรอุมา ชุ่มชื่น หรือ กุ้ง อายุ 41 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตอนตี 2 วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายคือ นายวรวัฒน์ สุทธิคณะ อายุ 25 ปี ได้งัดบานประตูกระจกอะลูมิเนียมก่อนเข้ามายังส่วนที่จำหน่ายมือถือ พร้อมทั้งใช้ไม้กวาดผลักกล้องวงจรปิดกว่า 10 ตัว ส่องขึ้นบนเพดานเพื่อไม่ให้บันทึกภาพได้ ขณะนั้นตนกับลูกวัย 7 ขวบ นอนอยู่ในห้องเก็บสินค้า และคนร้ายได้งัดประตูเข้ามาข่มขู่ถามว่าเคยติดหนีใครหรือไม่ ซึ่งตนก็ตอบไปว่าไม่มีก่อนจะตั้งสติใช้คำพูดเกลี้ยกล่อมโจรเพราะเกรงว่าจะทำร้ายตนกับลูก

หลังพูดคุยกับโจรอยู่นานเขาก็เกิดสำนึกผิดก้มลงเก้าตนและขอโทษที่ทำลงไป เหมือนว่าเขาจะคิดได้และขอร้องไม่ให้แจ้งตำรวจ ซึ่งในห้องนั้นมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ทุกอย่าง จากนั้นโจรก็ได้โทรฯหาใครบางคนพร้อมกับเดินไปรื้อค้นหาทรัพย์สิน ตนจึงถามไปว่าทำอะไร โจรก็หันมาใช้ปืนตบเข้าไปที่ขมับซ้ายของตน 1 ครั้ง จนเลือดอาบต้องเย็บถึง 4 เข็ม ก่อนจะชิงเอาทรัพย์สินหลบหนีไป หลังตำรวจตามจับกุมโจรมาได้แต่ตนก็ยังรู้สึกหวาดผวาเกรงจะเป็นอันตรายอยู่ เพราะเชื่อว่าจะต้องมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังแน่นอน

เพราะตนไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน นอกจากลูกน้องซึ่งเป็นสองสามีภรรยาที่เคยทำงานอยู่ที่ร้านได้ยักยอกเงินไปจำนวนหนึ่ง ทำให้ตนไล่ออกไปทั้งสองคน ประกอบกับหลังเกิดเหตุลูกน้องคนดังกล่าวได้โพสต์เฟซบุ๊กคล้ายกับรู้เรื่องที่ตนถูกทำร้ายทุกอย่าง และยังระบุข้อความในลักษณะพึงพอใจอีกด้วย อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบขยายผลและติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ วันเกิดเหตุยอมรับว่าตกใจอย่างมาก แต่พยายามตั้งสติและใจเย็นเพื่อปกป้องลูก โชคดีที่คนร้ายไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงตนกับลูก