เมื่อวันที่ 3 ม.ค. นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่ห้าของ 7 วันอันตราย ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ว่า วันที่ 2 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่ห้าของ 7 วันอันตรายมีคดีเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ จำนวนทั้งสิ้น 2,483 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา 2,425 คดี คิดเป็นร้อยละ 97.66 ติด EM 8 ราย คดีขับรถประมาท 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.04 และคดีขับเสพ 57 คดี คิดเป็นร้อยละ 2.30 โดยตลอดห้าวันมียอดคดีสะสมทั้งสิ้น 5,435 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา 4,883 คดี คิดเป็นร้อยละ 89.84 ติด EM 10 รายขับรถประมาท 11 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.20 ติด EM 1 ราย และขับเสพจำนวน 541 คดี คิดเป็นร้อยละ 9.95 ส่วนจังหวัดที่มีสถิติคดีเมาแล้วขับสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ ชัยภูมิ 403 คดี บุรีรัมย์ 350 คดี และสกลนคร 278 คดี

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า หากเปรียบเทียบสถิติคดีที่เข้าสู่การคุมประพฤติช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2565 กับปีที่แล้ว มีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติสูงขึ้น 3,239 คดี คิดเป็นร้อยละ 60 การติดอุปกรณ์ EM กับผู้กระทำผิดเมาแล้วขับมีตัวเลขสะสม 5 วัน จำนวน 11 ราย มีเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 – 04.00 น. เป็นระยะเวลา 15 วัน โดยมีสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศเฝ้าติดตามและควบคุมดูแลผู้กระทำผิดตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring Control Center – EMCC) หากมีการผิดเงื่อนไขคุมความประพฤติ พนักงานคุมประพฤติทำหน้าที่ประสานเครือข่ายภาคประชาชน และอาสาสมัครคุมประพฤติ เตรียมความพร้อมลงพื้นที่

นายวิตถวัลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมคุมประพฤติได้กำชับสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ พร้อมกำลังอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย และผู้ถูกคุมความประพฤติ ลงพื้นที่สนับสนุนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในการให้บริการประชาชนรวมถึงให้มีการทำงานบริการสังคมโดยการตรวจเยี่ยม แจกน้ำดื่ม ทำความสะอาดถนน ตรวจวัดอุณหภูมิ เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโรคโควิด-19 ตามจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน ด่านตรวจค้น จำนวน 58 จุด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 833 คนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่ต้องขับขี่รถทุกประเภท พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เสพสุราและยาเสพติด หากเกิดความเมื่อยล้า หรือง่วงนอน ควรจอดรถพักในจุดบริการต่างๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนรวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด.