เรื่องราวการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ยังคงมีมาให้เห็นเป็นระยะ เช่นเดียวกับไรเดอร์หนุ่มรายนี้ ที่ขอแชร์เรื่องราวสุดบั่นทอน ผ่านแฟนเพจ @อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 ระบุว่า “โปรดเห็นใจพี่ๆน้องๆไรเดอร์หน่อยย ใช่แต่จะเอาแต่สั่ง แต่ตามใจตนเอง ไรเดอร์ต้องเสียเวลาเสียโอกาศขนาดไหนในการที่ต้องมานั่งเอาใจลูกค้า” ผมเป็นไรเดอร์…วันนี้มีออร์เดอร์เด้งเข้ามาตอนบ่ายผมก็กดรับออร์เดอร์นั้นแล้วก็โทรฯหาลูกค้าเพื่อที่จะยืนยันออร์เดอร์

ผม:ฮัลโหลครับพี่ยืนยันออร์เดอร์นะครับที่อยู่ตรงตามหมุดเลยใช่ไหมครับ
ลูกค้า:ค่ะยืนยันอยู่คอนโด…ค่ะ
ผม:โอเคครับ
ลูกค้า:เดียวจะฝากแวะเซเว่นซื้อของหน่อยนะคิดค่าแวะได้เลย
ผม:ฝากซื้ออะไรครับ
ลูกค้า:เดี๋ยวส่งรายการไปให้ในข้อความ
ผม:โอเคครับเดี๋ยวผมแวะซื้อไปให้…

“พอผมขับรถไปถึงเซเว่นเปิดข้อความดู โอ้โหสั่งหลายอย่างเลย แต่ดันรับปากไปแล้วคิดว่าจะฝากซื้อ 1-2 อย่าง ก็เลยคิดเอาวะลองหาดูก่อน ผมก็เดินหาของที่เขาฝากซื้อแต่หาไม่เจออย่างนึง เขาฝากชื้อหลายอย่างผมก็เดินไปหยิบของที่หาเจอมาก่อน แล้วก็พยายามหาขนมนั้นต่อประมาณ 10 นาทีหาไม่เจอผมก็เลยโทรฯไปหาเขา”

ผม:พี่ครับขนมที่พี่ฝากซื้อมันไม่มีครับผมหาไม่เจอ
ลูกค้า:มันไม่มีหรองั้นเอาอีกรสนึงมาก็ได้
ผม:มันไม่มีทั้ง 2 รสเลยครับ
ลูกค้า:งั้นเอาขนม…มาแทน (ผมจำชื่อขนมที่เขาพูดไม่ได้ว่าชื่ออะไร)
ผม:มันเป็นแบบไหนครับผมไม่เคยซื้อกินไม่เคยเห็นครับ
ลูกค้า:อะไรวะ (แล้วก็ตัดสายทิ้ง) ผมก็เลยโทรฯไปอีกรอบนึงจะถามว่าสรุปจะให้ผมซื้อของที่ผมหาเจอไปไหม
ผม:สรุปพี่จะให้ผมซื้อไปไหมครับ
ลูกค้า:อะไร (น้ำเสียงเหมือนรำคาญ…แล้วก็ตัดสายทิ้ง)

ผมก็เลยเอาของที่ผมหยิบมาตอนแรกไปเก็บที่เดิม แล้วก็เดินออกมาจากเซเว่น ผมก็คิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าขับไปถึงที่อยู่เขา เขาไม่รับสายไม่ลงมารับอาหารแน่ ๆ แต่ผมก็คิดว่ายังไงก็ต้องไปรับอาหาร เพราะว่าป่านนี้ร้านน่าจะทำอาหารเสร็จแล้ว…ถ้าผมโทรฯไปหาร้านบอกว่าจะไม่เข้าไปรับอาหาร ร้านก็จะต้องทำฟรี เผลอ ๆ ผมโดนร้านด่าเอาด้วย ผมก็คิดไปว่าถ้าเขาไม่รับอาหาร ผมก็เอาอาหารไปกินเอง แล้วค่อยส่งเรื่องเคลมค่าอาหารกับบริษัท เพราะผมได้โทรฯไปยืนยันออร์เดอร์แล้ว มันเคลมค่าอาหารได้ ก็เลยขับรถไปรับอาหารมา

พอไปถึงคอนโดฯที่เขาอยู่ ผมโทรฯไปเขาบล็อกเบอร์ผม ผมก็พยายามโทรฯเรื่อย ๆ ทั้งหมด 12 สายก็ติดต่อไม่ได้ ผมก็นั่งรอประมาณ 15 นาทีก็ไร้วี่แวว (มันเป็นไปอย่างที่ผมคิดไว้จริง ๆ ว่าเขาไม่ลงมารับอาหารแน่ ๆ) ผมก็เลยแจ้งแอดมินขอยกเลิกงาน เนื่องจากติดต่อลูกค้าไม่ได้ โชคดีที่วันนี้คิวไม่เยอะ ปกติแจ้งขอยกเลิกงานอย่างต่ำมี 30 นาที ทีนี้แอดมินก็ลองโทรฯติดต่อลูกค้า ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนเดิม เขาก็เลยยกเลิกงานให้ แล้วให้ผมส่งเรื่องเคลมค่าอาหาร (ค่าอาหาร 100 บาท เป็นเงินของผมที่ต้องจ่ายให้ร้านอาหารก่อน)

“อยากจะถามเขาว่าไม่สงสารพวกผมบ้างหรอกว่าจะกดงานแย่งกันได้แต่ละตัว ไหนผมจะต้องขับรถตากแดดเพื่อที่จะไปส่งอาหารให้คุณ แดดมันร้อนมากนะครับ” เงินมันหายากนะครับ ช่วงนี้น้ำมันก็เเพงขึ้นทุกวัน ปกติบริษัทเขาไม่ให้ไรเดอร์รับฝากซื้อของนอกเหนือจากรายการที่ลูกค้าสั่งในแอพ แต่ผมก็หวังดีตอนแรกคิดว่าจะฝากซื้อไม่กี่อย่าง เลยรับปากทางโทรศัพท์ไปว่าเดียวแวะซื้อให้ ถ้ารู้ว่าคุณจะสั่งเยอะขนาดนี้ ผมปฏิเสธทางโทรศัพท์ไปแล้ว ผมไม่ได้อยากได้เงินคุณหรอก ปกติถ้าลูกค้าคนอื่นเขาฝากชื้อ เขาฝากแค่ 1-2 อย่างถ้ามันเป็นทางผ่าน ผมแวะชื้อให้ได้ แล้วไม่เคยคิดหวังสิ่งตอบแทน ไม่เคยคิดจะเรียกเก็บเงินค่าฝากซื้อกับลูกค้าเพิ่มแม้แต่บาทเดียว

แบบนี้มันเป็นความผิดผมเหรอที่ผมหาของที่คุณฝากซื้อไม่เจอถึงได้มาทำกับผมแบบนี้ผมเสียเวลาเป็นชั่วโมงนะครับ เอาจริง ๆ ผมจะปฏิเสธไม่แวะซื้อให้ก็ได้นะ “แต่นี่ผมอุตส่าห์มีน้ำใจ แล้วก็ไม่คิดด้วยว่า คุณจะฝากซื้อของได้ทุเรศแบบนี้ อย่าทำแบบนี้กับใครอีกนะครับ” อยู่คอนโดฯซะหรูแต่ทำตัวได้ต่ำตมมาก ทุกนาทีของไรเดอร์มันมีค่านะครับ อย่างผมถ้าวิ่งไม่ได้ตามยอดที่ต้องการก็ต้องเข้าบ้านดึกอีก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาเห็นใจไรเดอร์ พร้อมทั้งวิจารณ์การกระทำของลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างบอกว่า ถึงแม้ไรเดอร์จะมีน้ำใจ แต่ก็ควรมารยาท เกรงใจ นึกถึงใจเขาใจเราบ้าง..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3