เมื่อวันที่ 18 ม.ค. นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายณัฐวัฒน์ นุ้ยศรีราม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าได้รับแจ้งจากไกด์นำเที่ยวว่าเมื่อวันที่ 17 ม.ค. พบวาฬบรูด้า 3 ตัว โดยพบวาฬบรูด้าดังกล่าวต่างสถานที่ แต่ทั้งสามตัวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง หลังจากได้รับแจ้งวันนี้นายณัฐวัฒน์ นุ้ยศรีราม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ได้นำเจ้าหน้าที่สายตรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ นำเรือออกลาดตระเวนตรวจสอบตามที่ไกด์นำเที่ยวแจ้ง
จากการตรวจสอบพบวาฬบรูด้า 1 ตัว กำลังว่ายหากินสัตว์น้ำขนาดเล็ก เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพวาฬบรูด้า จากการตรวจสอบพบวาฬบรูด้าที่พบมีขนาดความยาวลำตัวประมาณ 6-8 เมตร ขณะหากินอาหารอยู่ระหว่างเกาะรอก เกาะแปยัค เกาะแหล เกาะหินแตก ทางด้านทิศตะวันตกของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งได้นำภาพไปเปรียบเทียบอัตลักษณ์กับฐานข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อระบุชื่อเป็นข้อมูล
จึงได้ประสานงานจัดส่งภาพถ่ายให้กับฝ่ายฐานข้อมูลการจำแนกประชากรวาฬบรูด้าในอ่าวไทย โดยใช้ภาพถ่ายของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จากการเปรียบเทียบอัตลักษณ์ของวาฬบรูด้า โดยเฉพาะลักษณะครีบหลังซึ่งตรงกับวาฬบรูด้าที่ชื่อ “เจ้าเปรมปรีดิ์” จากสถิติพบเมื่อปีที่แล้ว เจ้าเปรมปรีด์ได้ว่ายเข้ามาหากินในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง มีนาคม ซึ่งได้ว่ายหากินร่วมกับวาฬบรูด้าชื่อ แม่วันดี, เจ้าวันหยุด และเจ้าอิ่มเอม รวม 4 ตัว
ซึ่งโดยปกติวาฬบรูด้าออกหากินอยู่บริเวณทะเลอ่าวไทยตอนบนแถบ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี ส่วนใหญ่การพบวาฬบรูด้าบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองจะพบช่วงเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน และการที่พบวาฬบรูด้ามาหากินบริเวณภาคใต้ตอนล่างต่อเนื่องในปีนี้เป็นการพบวาฬบรูด้าที่เร็วกว่าปีที่ผ่านมา จึงเป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงความอุดมสมบูรณ์ระบบนิเวศทางทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองได้เป็นอย่างดี ซึ่งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จะดำเนินการสำรวจติดตามว่าจะมีวาฬบรูด้าเข้ามาหากินเพิ่มเติมในช่วงฤดูนี้หรือไม่เพื่อเก็บข้อมูล
ขอบคุณภาพจาก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
