เมื่อวันที่ 18 ม.ค. นายวิสา ชูอินทร์ อายุ 45 ปี ชาว​ จ.พัทลุง เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.อ.พิศิษฐ์ ชื่นเพชร​ ผกก.สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังถูกผู้มีอิทธิพลมืดยิงข่มขู่กว่า 30 นัด เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา บริเวณหลังศาลเจ้าบ้านท่าเรือ ซอยหัวท่า หมู่ที่ 3 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

นายวิสา กล่าวว่า ตนเป็นคนพัทลุง เพิ่งมาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตนี้ได้ไม่นาน เมื่อ 3 เดือนก่อน​ ตนไปซื้อที่ดินไว้ 1 แปลง มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตั้งอยู่หลังศาลเจ้าบ้านท่าเรือ มีเนื้อที่ 1 ไร่เศษ และได้ลงทุนก่อกำแพงเป็นอิฐแดงไว้รอบพื้นที่แล้ว ช่วงเกิดเหตุตนกำลังนั่งคุยกับเพื่อนบ้านอยู่ในแปลงที่ดินของตน จู่ๆ ได้มีนายยุทธเดินเข้ามาหาตนด้วยท่าทางไม่พอใจก่อนจะหันหลังเดินกลับไป เมื่อถึงหน้าบ้านของเขา เขาได้ชักอาวุธปืนสั้นขึ้นมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด และทิ้งช่วงเวลาไม่เกิน 2 นาที นายยุทธก็เดินเข้ามาอีกพร้อมกับถือปืนสั้นและปืนลูกซองยาวมาอีก 1 กระบอก มาหยุดตรงหน้าของตน และยิงอาวุธปืนสั้นกว่า 30 นัด ยิงปืนยาวอีก 2 นัด ต่อหน้าตนและเพื่อนบ้านข้างๆ

หลังเกิดเหตุตนทำอะไรไม่ถูกทั้งกลัวทั้งตกใจได้แต่ตะลึงตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้เดินออกจากพื้นที่บ้านของตนไป หลังจากนั้นตนก็ตั้งสติได้จึงได้เข้าแจ้งตำรวจ​ สภ.ถลาง ให้เข้าไปในพื้นที่ของตนและตำรวจได้เก็บปลอกกระสุนบางส่วนไว้เป็นหลักฐานแล้ว เพราะก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้หวนกลับมาเก็บปลอกกระสุนปืนไปบ้างแล้ว

สำหรับเรื่องนี้ตนขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะตนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยพูดคุยกับผู้ก่อเหตุมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุก็เคยมาข่มขู่ และบอกกับตนว่า “บริเวณนี้เขาไม่เคยกลัวใครไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจหรือใครทั้งสิ้น เขาเป็นคนใหญ่คนโตที่ควบคุมพื้นที่บริเวณนี้ ดูแลพื้นที่บริเวณหลังศาลเจ้าบ้านท่าเรือแห่งนี้ ใครจะทำอะไรต้องมารายงานเขาก่อน” ซึ่งตนคิดว่าการใช้อาวุธปืนยิงในระยะกระชั้นชิดอย่างนี้ ถึงแม้จะยิงขึ้นฟ้าต่อหน้าตนก็ทำให้ตนตกใจและหวาดกลัวอย่างมาก ไม่คิดว่าเมืองท่องเที่ยวแบบภูเก็ตจะมีอิทธิพลป่าเถื่อนแบบนี้

ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้ได้นำอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุ และอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก ว่ามีใบอนุญาตหรือไม่.