เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขาธิการ ปปง. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้โทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งสินค้าหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น ตำรวจ สำนักงาน ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศาล อัยการ หลอกผู้เสียหายให้หลงเชื่อว่าทำผิดกฎหมาย หรือหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อทำนองว่าส่งของผิดกฎหมาย ติดค้างอยู่ด่านศุลกากร และมีการปลอมแปลงเอกสารคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม เรื่อง การส่งทรัพย์สินเข้าตรวจสอบที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

มีการใช้ตราสัญลักษณ์ (Logo) ของสำนักงาน ปปง. และปลอมลายมือชื่อบนเอกสารดังกล่าว เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะแสดงทีท่าว่ามีการโอนสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้ผู้เสียหาย ก่อนออกอุบายให้โอนเงินให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยอ้างว่าหากส่งให้ตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดจะโอนเงินคืนให้ และเมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้ จะติดต่อไม่ได้อีกเลย ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพมักกระทำการเป็นกระบวนการ

พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวอีกว่า การกระทำความผิดในลักษณะแบบนี้ มิจฉาชีพมักใช้โทรศัพท์และ Application Line เป็นเครื่องมือในการดำเนินการ และใช้รูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ใช้บัญชีรับโอนเงินของผู้อื่นหรือผู้รับจ้างเปิดบัญชี เพื่อป้องกันการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ โดยพบผู้เสียหายจำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักล้าน ทั้งนี้ ขอย้ำว่า สำนักงาน ปปง. ไม่เคยมีการออกเอกสารในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด จึงขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด อาจเสียเงินฟรี

นอกจากนี้ สำนักงาน ปปง. ขอเตือนผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีและยอมให้ใช้บัญชีธนาคาร หากมีการนำบัญชีไปใช้ในการกระทำความผิดที่เข้าข่ายเป็นการฟอกเงินจะเป็นการให้ความร่วมมือกับมิจฉาชีพด้วยวิธีการรับจ้างเปิดบัญชี โดยความผิดฐานฟอกเงินนั้น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งสำนักงาน ปปง. จะตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์จนนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในที่สุด และจะดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน กับผู้ที่จ้างให้เปิดบัญชีและผู้รับจ้างเปิดบัญชีอย่างเด็ดขาดและถึงที่สุดเช่นกัน หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือพบเห็นการกระทำความผิดให้โทรฯ สอบถามหรือแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปปง. 1710