สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมเขตแดนเนเธอร์แลนด์ ประจำท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล ตรวจพบชายชาวแอฟริการายหนึ่ง ลักลอบเดินทางเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย ด้วยการซุกตัวในช่องพับล้อหน้า เครื่องบินขนส่งทางอากาศโบอิ้ง 747 บริษัทคาร์โกลักซ์ อิตาเลีย ของอิตาลี เดินทางจากสนามบินเมืองโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ แวะผ่านสนามบินกรุงไนโรบี เคนยา ก่อนจะไปถึงสนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล เมื่อวันอาทิตย์ (23 ม.ค.)

แถลงการณ์ของ น.ส.โจแอนนา เฮลมอนด์ โฆษกสำนักงานสารวัตรทหารแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า ชายชาวแอฟริกาซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสัญชาติและอายุ มีสุขภาพโดยรวมแข็งแรงดี แต่ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ตรวจโดยละเอียดอีกครั้ง และเหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ที่ชายคนนี้รอดชีวิตจากการเดินทางยาวนาน ในระดับความสูงหลายหมื่นฟุต

เบื้องต้นยังไม่แน่ชัดว่า ชายคนดังกล่าวแอบเข้าไปซุกตัวในช่องพับล้อเครื่องบิน จากสนามบินเมืองโจฮันเนสเบิร์ก หรือขณะที่เครื่องบินแวะจอดที่สนามบินกรุงไนโรบี

เครื่องบินเดินทางจากโจฮันเนสเบิร์ก ถึงกรุงอัมสเตอร์ดัม ปกติจะใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง การรอดชีวิตจากความหนาวเย็น และอากาศเบาบาง ในพิกัดความสูงที่เครื่องบินเดินทาง ถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์

เฮลมอนด์ เผยอีกว่า การลักลอบเดินทางฟรีด้วยเครื่องบิน ไปยังเนเธอร์แลนด์ เกิดขึ้นน้อยมาก ก่อนหน้านี้เคยมีความพยายาม 2 ครั้ง จากไนจีเรียและเคนยา โดยปีที่แล้ว ศพของชายชาวไนจีเรียรายหนึ่ง ถูกพบในช่องพับล้อเครื่องบินโดยสาร หลังเดินทางถึงสนามบินสคิปโฮล จากการตรวจชันสูตรศพพบว่า เสียชีวิตกลางอากาศ จากความหนาวเย็น

เดือน พงย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐ ประจำสนามบินเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา จับกุมชายวัย 26 ปีคนหนึ่ง ลักลอบเดินทางเข้าประเทศ ด้วยการซุกตัวในช่องพับล้อเครื่องบินโดยสาร ไปจากประเทศกัวเตมาลา ในภูมิภาคเอเมริกากลาง.

เครดิตภาพ – World Today News, Reuters
เครดิตคลิป – NEWS WATCH 24