เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล  พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้า กรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ขี่บิ๊กไบค์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสียชีวิตขณะข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย หน้าาสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท ว่า

จากภาพที่ปรากฎในโซเชียลว่ารถบิ๊กไบค์คนดังกล่าวเคยถูกจับกุมมาแล้วนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ภาพดังกล่าวเป็นเหตุที่เกิดในวันที่ 23 ธ.ค.64 ที่ด่านตรวจกวดขันป้องกันอาชญากรรมในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ บริเวณถนนจักรพงษ์ ใกล้กับถนนข้าวสาร พื้นที่ของ สน.ชนะสงคราม ซึ่ง ส.ต.ต.นรวิชญ์ ได้ขี่รถคันดังกล่าวไป และมีการเรียกตรวจตามปกติ และตรวจใบขับขี่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ตามขั้นตอน ซึ่งในด่านตรวจนั้นก็มีเพื่อนตำรวจเห็นว่าผู้ถูกเรียกตรวจเป็น ส.ต.ต.นรวิชญ์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน ก็มีการถ่ายภาพไว้ ส่งในกลุ่มเพื่อน เป็นการแกล้งเล่น 


พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในวันดังกล่าวที่มีการเรียกตรวจรถจยย.ของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ นั้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากด่านตรวจป้องกันอาชญากรรมจะมีเป้าหมายเป็นรถจยย. หากขับเข้ามาในด่านก็จะมีการเรียกตรวจตามขั้นตอน ซึ่งรถของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ มีการติดป้ายทะเบียนชัดเจน การแต่งกายเป็นชุดไปรเวทไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นตำรวจ และสวมหมวกนิรภัยถูกต้อง จากการตรวจภายนอกไม่มีความผิดปกติหรือผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการตรวจสอบภาพรวมเท่านั้น ไม่ได้ตรวจเชิงลึกถึงการต่ออายุทะเบียน จึงได้ปล่อยตัว ส.ต.ต.นรวิชญ์ไปโดยไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนผลการตรวจสอบความเร็วรถจะได้ทราบผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ ซึ่งหากพบว่ามีความผิด ก็จะแจ้งข้อหา ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น เพิ่มเติม และที่มีกระแสจากสังคมว่า อยากให้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบความเร็วครั้งนี้เพื่อความโปร่งใส ทางตำรวจยืนยันว่า การใช้ผู้เชี่ยวชาญจากกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ศาลให้การยอมรับ เป็นไปอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกระบวนการกฎหมาย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญความเร็ว จากกองพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานทั้ง รอยเบรค วัดระยะการชน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ต้องมีการจำลองเหตุการณ์การชนแต่อย่างใด

พล.ต.ต.จิรสันต์  กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของสภาพจิตใจของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาและเพื่อนๆ ได้เข้ามาดูแล และให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดพบว่า สภาพจิตใจ ส.ต.ต.นรวิชญ์ดีขึ้นบ้างแล้ว พร้อมทั้งจะรวมกลุ่มช่วยเหลือกันเพื่อเยียวยาให้กับผู้เสียชีวิตอีกทางหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีความก็ดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนในเรื่องสภาพจิตใจก็ต้องคอยดูแลกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ครบกำหนดลากิจ ในวันที่ 27 ม.ค. ส.ต.ต.นรวิชญ์ ยังไม่มีการลากิจเพิ่มเติมแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการตำรวจในสังกัดเดิมได้ จนกว่าศาลจะตัดสิน สิ้นสุดกระบวนการว่า มีความผิดและลงโทษจำคุก จึงจะถูกให้ออกจากราชการ 

อย่างไรก็ตาม ความผิดฐานประมาทถือว่าเป็นโทษทางวินัยที่ไม่ร้ายแรง เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของระเบียบกฏหมายอยู่แล้ว มั่นใจว่าตำรวจสามารถนัดส่งตัวผู้ต้องหา และสำนวนให้อัยการ ทันเวลา ในวันที่ 11 ก.พ.นี้อย่างแน่นอน

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเยียวยาอีกส่วนที่ให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งคือ ในฝั่งของผู้เสียหาย ที่เป็นบุคคลากรที่ทรงคุณค่า และเป็นแพทย์ในการปฏิบัติหน้าที่ใน รพ.ตำรวจ รวมถึงเป็นบุคคลที่ตำรวจรัก และเสียใจ ซึ่งความสูญเสียนี้ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวด้วย ดังนั้นหากมีสิ่งใดที่สามารถช่วยเหลือดูแลได้ ก็จะพยายามดำเนินการให้ดีที่สุด

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวเพิ่มว่า ในส่วนเรื่องจุดจอดล้ำบริเวณทางม้าลาย โดยบริเวณแยกอโศกนั้น เป็นพื้นที่ทดลองระยะที่ 1 ใช้งบประมาณของ กทม.ในการดำเนินการ ส่วนระยะที่สอง จะมีการแจ้งให้ทราบถึงโครงการนี้ และ ระยะที่สาม จะเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยในวันที่ 28 ม.ค. จะมีการประชุมโดย พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงวิธีการสร้างความปลอดภัยใช้ทางม้าลาย และเพิ่มโทษกับผู้กระทำความผิดอีกด้วย.