จัดเป็นอีกหนึ่งสาวที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานาน และมีผลงานมากมายทั้งผู้ประกาศข่าว พิธีกร นักเขียน รวมถึงวิทยากรสำหรับสาวเก่ง “กาละแมร์ พัชรศรี” ที่เรียกว่าเธอพกพาความสามารถมารอบด้านจริงๆ และมีแฟนๆ​ ที่ติดตามเธอมาอย่างยาวนาน แต่กว่าเธอจะแข็งแกร่งและมาถึงทุกวันนี้ได้ เธอก็ต้องเจอมรสุมดราม่าใหญ่ๆ​ ในชีวิตถึง 2 ครั้ง

งานนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” จะพาทุกคนไปย้อนดูเรื่องราวดราม่าในอดีตของสาวกาละแมร์ที่ทำให้ใครหลายๆ​ คนต้องมอบกำลังใจให้เธออย่างมากมายทันที

เริ่มจากเรื่องที่สาวกาละแมร์ที่ทำคลิปวิดีโอบรรยายสรรพคุณผลิตภัณฑ์เสริมอาหารว่า “กรอบหน้าชัด เหนียงหาย หน้ายก ตาที่เคยหนังตาตกก็เป็นตา 2 ชั้น รอยขมวดคิ้วหาย ร่องแก้มตื้น จมูกเข้ารูป ย้ำอีกครั้งว่า ไม่เคยทำจมูกอะไรใดๆ ตอนนี้กินแต่ผลิตภัณฑ์ตัวเองเท่านั้น” จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ถึงการทำโฆษณาดังกล่าว จนมีคนไปร้องเรียนก่อนที่ทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สั่งระงับโฆษณา ซึ่งต่อมา ถูกแจ้งข้อหาความผิด พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 40 โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือ หลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร และ มาตรา 41 โฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพหรือสรรพคุณของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา อีก 1 ข้อหาด้วย

จากนั้นสาวกาละแมร์ ถูกแจ้งข้อหา 3 ข้อ โดยได้ให้การรับสารภาพ 2 ข้อหาคือ พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 40 โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือ หลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร และ มาตรา 41 โฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพหรือสรรพคุณของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ปฏิเสธความผิด พ.ร.บ.คอมพ์ มาตรา 14​ (1) นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบฯ

ต่อมาในวันที่ 11 ก.พ.64 สาวกาละแมร์ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าว่า “แมร์ขอใช้พื้นที่ตรงนี้อัพเดทสถานการณ์ต่างๆ ให้ทุกคนได้ทราบนะคะ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา แมร์ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว และทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมายค่ะ ซึ่งหากมีความคืบหน้าใดๆ จะมีการให้ข้อมูลแก่ทุกคนอีกครั้งนะคะและจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แมร์อยากขอโทษทุกคนกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจากความบกพร่องและผิดพลาดของแมร์ ซึ่งแมร์ขอน้อมรับคำตำหนิและคำตักเตือนจากทุกท่านค่ะ และจะนำไปปรับปรุงตัวเองและการทำงานต่อไป โดยจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกค่ะ และเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ นอกเหนือจากกระบวนการทางกฏหมายต่างๆ แมร์ได้ตัดสินใจยุติบทบาทการทำหน้าที่พิธีกรในทุกรายการ คือ รายการ 3แซ่บ และรายการ Take Me Out Thailand ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแมร์ขอกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ทุกๆ ท่านที่ให้โอกาสและความเมตตากับแมร์มาโดยตลอด ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน ทีมงานทุกคน กราบขอบพระคุณผู้ชมทุกๆ​ ท่าน ที่ให้โอกาสและติดตามผลงานของแมร์มาตลอด 24 ปีที่ผ่านมา”

จากนั้นไม่นานแฟนๆ​ ที่ติดตามผลงานของสาวกาละแมร์ก็ทยอยกันมาให้กำลังใจสาวกาละแมร์ตามช่องทางโซเชียลต่างๆ​ ของเธออย่างมากมาย พร้อมบอกรอคอยเธอกลับมาทำหน้าที่พิธีกรทางหน้าจออีกครั้ง และบางคนก็บอกว่าหวังว่าสาวกาละแมร์จะไม่เจอเรื่องราวดราม่าหนักๆ​ อีก

‘กาละแมร์’ขอโทษ-รับผิด ประกาศยุติพิธีกรทุกรายการดัง

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่สาวกาละแมร์หายหน้าไป เธอยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในโซเชียลของเธอและมักมีเรื่องการดูแลสุขภาพมาแชร์ให้แฟนๆ​ เห็นอยู่เสมอ ซึ่งแฟนๆ​ ก็ยังคงไม่ลืมและไปคอมเมนต์พูดคุยกับเธออยู่ตลอด

แต่ล่าสุดชื่อของสาวกาละแมร์มาเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังถูกโยงหนักจากกรณีที่มีเพจหนึ่งออกมาแฉพฤติกรรมของ “ดาราหอยทาก” ท่านหนึ่ง โดยมีใจความว่าดาราหอยทากท่านนี้ชอบตระเวนทำบุญไปทั่ว ซึ่งแต่ละที่ก็ทุ่มเงินมากมาย โดยดาราหอยทากนำชาวคณะไปปีนถ้ำเพื่อความปัง ทำเอาชาวบ้านสวดกันยับถึงความเป็น VIP ทั้งบวงสรวงใหญ่โตจัดเต็มเครื่องเสียงดนตรีดังกระหึ่ม, ใช้เวลานานในการอธิษฐาน, นำสิ่งของข้อห้ามไปไหว้ และเอาสิ่งของไปวางไว้บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม พอมีการลงข่าวไป ก็ทำเอาหลายคนโยงไปถึงดาราต่างๆ​ มากมาย และก็มีการโยงมาถึงสาวกาละแมร์จนได้

พอมีกระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้น สาวกาละแมร์ก็ไม่นิ่งเฉยออกมาอัพเดทรูปของตนเองตอนไปไหว้ถ้ำนาคา ก่อนจะย้ำชัดว่าตนเองไม่ใช่คนในช่าวแน่นอน ซึ่งชาวเน็ตก็ออกมาให้กำลังใจเธออย่างมากมาย ขณะเดียวกันหลังจากเธอชี้แจงไป ก็มีชาวเน็ตพยายามโยงและจับผิดรูปที่เธอลงว่ามีการนำพานดอกไม้ และหมากพลูรวมถึงเอาลำโพงขึ้นไปบนถ้ำนาคาจริง ซึ่งมันปิดกฎของการขึ้นไปสักการะอย่างชัดเจน

พอมีการขยายประเด็นนี้ก็ทำเอาหลายคนออกมาโจมตีสาวกาละแมร์อีกครั้ง แต่สาวกาละแมร์ก็ยังคงใช้สติและความนิ่งสยบความเคลื่อนไหวต่างๆ แม้ล่าสุดรายการดังทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี ได้มีการลงพื้นที่ไปยัง กรมอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ และได้พูดคุยกับ นายอารมณ์ ผาสีดา หัวหน้ากรมอุทยานฯ​ ภูลังกา ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่า “ปกติแล้วจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำเครื่องบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน โฟม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถุงพาสติก และสิ่งอื่นๆ​ ที่เป็นขยะ ขึ้นไปด้านบนถ้ำ แต่เจ้าหน้าที่จะไม่มีการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ เพียงแค่บอกกล่าวเท่านั้น ส่วนกรณีดาราหรือวีไอพีหรือหากต้องการถ่ายทำรายการ ก็ต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ และดาราที่ขึ้นเขาล่าสุดที่มาแจ้งก็คือคุณกาละแมร์ มีทีมงานประมาณมากันไม่เกิน 30 คน 28-29 คน ก็เป็นนักท่องเที่ยวธรรมดา เท่าที่รู้ส่วนใหญ่น่าจะเป็นบลูทูธธรรมดาแต่อยู่ในถ้ำอาจจะก้อง เปิดเสียงเบาๆ มันก็ก้องอยู่แล้ว”

เคลื่อนไหวแล้ว! ‘กาละแมร์’ โป๊ะแตก ‘กรมอุทยานฯ’ แฉชัด สวมบท ‘ดาราหอยทาก’ พกลำโพงขึ้นถ้ำนาคา

ขณะเดียวกันหลังจากมีการสัมภาษณ์กรมอุทยานแห่งชาติฯ​ ไป หลายคนก็พากันโฟกัสโซเชียลของสาวกาละแมร์อีกครั้ง แต่เธอก็ยังคงเดินหน้าลงรูปในโหมดสดใสและแจกความสุขให้กับแฟนๆ​ อยู่ตลอด และที่คนโฟกัสหนักมากนอกจากเรื่องของดราม่าที่พุ่งใส่เธอแล้ว​ ก็คือความเชื่อด้าน “ปีชง” ซึ่งเป็นความเชื่อเรื่องสิ่งไม่ดีที่อาจะเกิดขึ้นในแต่ละปีของคนที่เกิดในปีนักษัตรนั้นๆ โดยปีที่ผ่านมา ปีมะโรง ซึ่งเป็นปีเกิดของสาวกาละแมร์ 19 ต.ค.2519 นั้นเป็นปีที่อยู่ในลิสต์ของปีชง ทำให้หลายคนมองว่าเธอเจอ “อาถรรพณ์” จากสิ่งนี้ ทำให้เธอดราม่ามากมายพุ่งใส่นั่นเอง เพราะแค่เพียงยังไม่ครบปีที่เธอออกมาประกาศยุติบทบาทพิธีกร ตอนนี้เวียนมาจะครบปีแล้วเธอก็เจอโยงดราม่าดราหอยทากอีก

งานนี้ก็คงต้องรอดูต่อไปว่าสาวกาละแมร์จะใช้ “สติ-ความนิ่ง” สยบเรื่องราวนี้หรือจะออกมาชี้แจงให้กระจ่างแจ้งอีกรอบไปเลย ยังไงแฟนๆ​ ก็คงต้องรอดูและมอบกำลังใจให้เธอกัน

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม kalamare