เมื่อวันที่ 30 ม.ค. จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 3 โพสต์เล่าเรื่องราวดราม่าระหว่างเพื่อนบ้าน ระบุว่า #เล่าเรื่องจากหลังไมค์ #มีเพื่อนบ้านผิดชีวิตวุ่นวาย ความจากผู้ร้อง ขอให้ส่งต่อเรื่องความถึงสื่อสังคม ผมขอให้ทางอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น ช่วยจัดการให้ด้วยครับ ผมไม่รู้ว่าที่นี่เป็นหมู่บ้านหรือเป็นที่จอดรถส่วนบุคคล แถมยังมีเต็นท์มาติดตั้งในพื้นที่ส่วนกลางอีก ตอนนี้คนในหมู่บ้านนี้เดือดร้อนกันหมด ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ นอกจากลงสื่อให้ทางคุณพูดช่วยอีกแรงครับ ขอขอบคุณมากครับพิกัดหมู่บ้าน… เลขที่… ถ.ราชพฤกษ์ ตำบลบางรักน้อย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

จากคลิป คือบ้านที่เอารถมาจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ส่วนกลาง เป็นเวลานานมากนับเดือน นับปีได้ แถมยังมีการติดตั้งหลังคาบนพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งทางเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำแบบนี้ครับ ที่เห็นในภาพคือของเขาทุกคันครับ

นิติจัดการไม่ได้ครับ นิติไปบอกให้เอาออกเขาก็ไม่ยอมเอาออกครับ เขาบอกว่าถ้าจะให้เอาออกให้ไปฟ้องศาล ถ้าศาลสั่งให้รื้อ เขาก็จะรื้อออก ผมถึงต้องการให้สื่อช่วยกดดันเขาอีกทีครับ วันก่อนผมเห็นข่าว พี่สรยุทธ ได้มีลงข่าวแบบนี่ พอลงข่าวไม่กี่วันทางเขตเขาก็มาสั่งให้รื้อออก ต้องขอความกรุณาจากทางเพจ

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ภายในหมู่บ้านดังกล่าวพบกับ นายพิสิษฐ์ กิตติโสภณวัฒน์ อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านที่โพสต์ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเครียด เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนกลางทุกคนมีสิทธิ์เท่ากันหมดตอนนี้เหมือนตนไม่มีสิทธิ์ จะให้เขาตัดตนไม้นอกรั้วก็ตัดไม่ได้ต้องไปขออนุญาตกับกลายเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เวลามีปัญหาตอนกลางคืนมันมืดเป็นที่อับใครเข้าใครออกปีนมาที่บ้านของตนก็ไม่มีใครรู้ มันคือความไม่ปลอดภัยในในบ้านของตน

เจ้าของบ้านที่โพสต์

อีกอย่างคือความไม่ถูกต้อง กฎระเบียบของนิติห้ามให้จอดรถ ห้ามทำหลังคา แต่ตอนนี้มันเหมือนพื้นที่ส่วนบุคคล แต่เขาอ้างว่าเขามีสิทธิ์ ทำแบบนี้เหมือนลิดรอนสิทธิของคนอื่น ตนเคยพูดคุยแล้วแต่เขาพูดแบบไม่ตรงประเด็นและไร้สาระ แล้วบอกว่าจะเอาออกไปแต่ก็ไม่ได้เอาออก ถ้าทำแบบนี้ได้หนึ่งหลัง ทุกบ้านต้องทำได้ ตอนนี้ตนต้องเป็นฝ่ายประกาศขายบ้าน เนื่องจากตนอึดอัดและไม่อยากมีปัญหา เลยคิดว่าจะขายบ้านทิ้งดีกว่าเพื่อความสบายใจ

ขณะที่ นายจุมภฏพงศ์ หรือ เด่น ทองอ่อน อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นเจ้าของรถยนต์คู่กรณีซึ่งนำรถกว่า 20 คัน และรถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน มาจอดอยู่หน้าบ้านตนเอง และริมรั้วบ้านของเพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าการจอดรถในลักษณะดังกล่าวอาจกีดขวางบ้านของคู่กรณี แต่ตนเองเป็นคนรักรถ ชอบสะสมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ตนเคยพูดคุยเจรจากับเขาหลายครั้งแล้ว เมื่อวานก็มีการประชุมกรรมการหมู่บ้าน ตนก็ได้แจ้งกับนิติบุคคลและประธานหมู่บ้านแล้ว ว่าตนขอเวลาจะทำการโยกย้ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ออกไปในเร็ววัน

เจ้าของรถยนต์คู่กรณี

เรื่องทั้งเรื่องคู่กรณีไม่น่ามาโพสต์ในโลกออนไลน์ จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เขาเคยมาบอกขายบ้านให้ตน 30 ล้าน ตนต่อราคาเหลือ 25 ล้าน แต่เขาไม่ขายจนตอนหลังเขาขายใครไม่ได้ก็ไปติดป้ายขายอยู่หน้าบ้านตนเอง แล้วมาบอกตนว่าต้องการซื้อบ้านอีกมั้ย ตนบอกว่าถ้าจะซื้อตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี ซื้อได้คงจะต้องขอในราคา 20 ล้านบาท แล้วเขาก็ไม่ขายโดยไปติดป้ายแขวนไว้ที่ประตูรั้วขายเอง และมักมาพูดกับตนเสมอว่าที่ขายไม่ได้ไม่มีคนมาซื้อก็เพราะตนเองจอดรถจำนวนมากอยู่ริมรั้วบ้านเขา เกิดเรื่องแบบนี้ตนคงไม่ซื้อแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นตนนำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าชี้แจง กับทางประธานหมู่บ้านและนิติบุคคลจนเป็นที่เข้าใจ และขอเวลาในการโยกย้ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ออกไป เรื่องทั้งหมดก็มีเพียงแค่นี้แต่เขาไม่น่าไปโพสต์เรื่องราวเพื่อให้เป็นข่าวใหญ่โตเลย