พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ยอดรับสมัครการลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิซื้อจองสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำปี 65 ซึ่งเริ่มเปิดตั้งแต่ 1 ม.ค. และสิ้นสุดเมื่อ 31 ม.ค.65 ที่ผ่านมา มีผู้สมัครทั้งสิ้น 1.03 ล้านราย ซึ่งมากกว่าที่คาดหมายไว้จะมี 4-5 แสนราย โดยจังหวัดที่มีผู้สมัครมากสุด 5 อันดับแรก เป็นกรุงเทพมหานคร 99,772 ราย รองลงมาเป็นจังหวัดเลย 85,589 ราย นครราชสีมา 38,545 ราย นนทบุรี 27,109 ราย และขอนแก่น 26,119 ราย
ทั้งนี้ ขั้นตอนหลังจากนี้ สำนักงานสลากฯ จะนำรายชื่อผู้สมัครแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้สมัครรายเดิมที่มีสิทธิซื้อจองอยู่แล้วกว่า 1 แสนราย จะนำเข้าสู่กระบวนตรวจสอบว่าเป็นผู้ขายสลากตัวจริง และขายในราคาไม่เกิน 80 บาทหรือไม่ หากพบว่าเป็นผู้ขายตัวจริงก็จะได้รับสิทธิต่อทันที โดยไม่ต้องนำมาจับสลากสุ่มคัดเลือก อีกกลุ่มที่เป็นผู้สมัครรายใหม่ ซึ่งสำนักงานฯ จะนำรายชื่อทั้งหมดมาคัดกรองคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด หากมีจำนวนผู้ผ่านการตรวจสอบสิทธิเกินกว่าที่สำนักงานฯกำหนด จะนำมาสุ่มคัดเลือกอีกครั้ง เพื่อให้ได้จำนวนสิทธิตามที่ตั้งไว้ทั้งรายเก่าและรายใหม่รวมกันไม่เกิน 2 แสนสิทธิ
สำหรับเงื่อนไขคัดกรองคุณสมบัติ เบื้องต้นสำนักงานฯ จะนำไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลหลายส่วน ทั้งสำนักงานประกันสังคม ข้อมูลจากการเข้าร่วมโครงการรัฐ เช่น ต้องไม่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เป็นพนักงานประจำ เป็นต้น โดยจะเสนอหลักเกณฑ์คัดกรองคุณสมบัติอย่างละเอียด ให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลเห็นชอบ และประกาศออกมาชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งยืนยันว่าจะมีความโปร่งใส่ เป็นกลาง สามารถตรวจสอบและชี้แจงกับสังคมได้ทุกประเด็นแน่นอน ส่วนการตรวจสอบผู้มีสิทธิซื้อจองในปัจจุบัน จะเน้นกระบวนให้สังคมและประชาชนเข้ามามีส่วนรวมในการตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯ ยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มจำนวนสิทธิที่กำหนดไว้ 2 แสนราย เพราะมองว่าสอดคล้องกับจำนวนสลากที่มีอยู่ และเหมาะสมกับสภาพตลาดผู้ซื้อในปัจจุบันอยู่ ส่วนระยะเวลาขั้นตอนต่อจากนี้ เบื้องต้นยังใช้กำหนดเวลาเดิม โดยจะใช้เวลาคัดกรองรายชื่อประมาณ 2 เดือน จากนั้นจะประกาศรายชื่อเพื่อให้เข้าไปยืนยันตัวตน โดยกระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในเดือนเม.ย.65 เพื่อให้ผู้มีสิทธิเริ่มทำรายการซื้อจองได้ตั้งแต่งวดวันที่ 2 พ.ค.65