จากกรณีแท็กซี่ภูเก็ต คิดค่าโดยสารนายเฆวินทร์ พล ลูกชายของ ดร.สุนิล พล หรือหมอสุนิล เจ้าของ ดร.สุนิล อินเตอร์เนชั่นแนล เดนทัล คลินิก หมอฟันระดับมหาเศรษฐีพันล้าน โดยเรียกค่าโดยสารแพงถึง 600 บาท แต่นายเฆวินทร์ไม่ยอมจ่าย ทั้งที่มีเงินจ่าย เพราะมองว่าถูกเอาเปรียบ ส่วนคอมเมนต์ชาวภูเก็ตบางส่วนมองว่านักท่องเที่ยวผิด​ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปกติในภูเก็ต ทำไมรวยแล้วไม่ยอมจ่าย จนกลายเป็นดราม่า ถูกวิพากษ์วิจารณ์สนั่นในโลโซเชียล โดยแบ่งเป็นสองฝ่ายตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ เพื่อสอบถามความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าว โดยนายชำนิ ธิมากุล อายุ 45 ปี ผู้ประกอบการแท็กซี่ ป่าตอง กล่าวว่า การที่ว่าภูเก็ตแท็กซี่แพง เป็นของคนกลุ่มบางกลุ่มที่ไม่ใช่คนภูเก็ต คนภูเก็ตเองยินดีต้อนรับทุกคนมาเที่ยวภูเก็ต การที่ลงโซเชียลบางส่วนก็เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ส่วนที่ค่าแท็กซี่แพงเพราะค่าครองชีพแพง เส้นทางขึ้นเขาลงเขาไม่ใช่ทางเรียบ สำหรับค่าบริการในป่าตองเองเริ่มต้นราคา 200 บาทก็จริง แต่เมื่อแขกมาต่อ 150 บาท เราก็ไป บางที 100 บาท เราก็ไปแล้ว เราไปได้หมดคือตกลงราคากันได้ต่อรองกันได้

ด้าน น.ส.สุชาดา พากอง อายุ 34 ปี ผู้ประกอบการขายอาหาร ริมหาดป่าตอง กล่าวว่า ผลกระทบไม่ใช่มาจากค่าแท็กซี่อย่างเดียว คือรถที่ผู้ประกอบการซื้อมามันก็แพง คันนึงก็เป็นล้านแล้ว ไหนจะค่าป้าย ค่าภาษี มันก็เริ่มต้นตั้งแต่แรกเลย ที่แพงมาจากตรงนั้นอยู่แล้ว แล้วก็พอมาถึงเวลามาวิ่ง วิ่งเหมาวันหนึ่งๆ แขกจะ 10 คนหรือ 5 คน 6 คน ก็แล้วแต่ คือค่ารถ 200 บาทในป่าตอง บางคนนั่งวินมอเตอร์ไซค์คนเดียวก็ 40 บาท อย่างนั่งแท็กซี่ 5 คน หรือ 6 คน ก็ 200 เหมือนเดิม อยากให้แก้ที่ต้นเหตุไม่ใช่ปลายเหตุ เพราะว่าหากเสียหายจริงๆ คือมันเสียหมดเลย ไม่เกี่ยวกับแท็กซี่ คือแพงมาตั้งแต่แรกเลย

เรียก ‘แท็กซี่กร่างภูเก็ต’ เข้าห้องเชือด ปมขู่ตื้บ ‘ลูกหมอสุนิล’ ลับดาบฟันโทษ เซ่นผิดชัดเจน

“ส่วนร้านค้า ค่าน้ำค่าไฟก็แพง ค่านู่นค่านี่อยู่ที่นี่แพงทุกอย่างเลย ผลกระทบจริงๆ นะคะ ร้านอาหารแพงตั้งแต่วัตถุดิบ ตั้งแต่ไปซื้อวัตถุดิบที่ตลาด แพงค่ะ ไม่ใช่ไม่แพง ซื้อเสร็จปุ๊บ เราก็ต้องมาเสียเวลาทำ เพื่อที่จะมารอลูกค้ามาซื้อ เราก็ขายถูกๆ ไม่ได้ สาเหตุเราต้องขายแพงคือผลพวงมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” น.ส.สุชาดา กล่าว

น.ส.สุชาดา กล่าวต่อว่า เราก็มีผลกระทบอยู่แล้วไม่ใช่อยากขายแพง แท็กซี่ก็ไม่อยากวิ่งแพง อยากให้หน่วยงานเข้ามาดูแลไม่ใช่มากดราคาให้ต่ำลง แต่ทุกอย่างยังพุ่งสูงอยู่ เขาจะใช้ชีวิตยากลำบาก ก็อยากให้หน่วยงานเข้ามาดูตั้งแต่แรก คุ้มกันไหมกับรายรับ รถตุ๊กๆ คันหนึ่งก็ 7-8 แสนบาท บางคันก็เป็นล้านเลย แล้วแขกบางคนนั่งตุ๊กๆ ธรรมดาไม่มีเครื่องเสียงก็นั่งไม่ได้ เราก็ต้องไปติดเครื่องเสียงดีๆ ให้เขานั่ง เพราะเขาเลือกนั่งตุ๊กๆ นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนมากไม่ค่อยมีปัญหา ถ้าเขาพอใจไปก็ไป ถ้าเขาไม่พอใจไปเขาก็ไม่ไป