จัดเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์ที่หลายคนสนใจอย่างมากมายสำหรับเรื่องของ “ติ๋ม ทีวีพูล” ผู้บริหารคนดังกับอดีต พส.ที่ลาสิกขาออกมาเป็นคนธรรมดาและอยู่ท่ามกลางความสนใจของแฟนๆอย่าง ทิดสมปอง นครไธสง ที่ล่าสุดติ๋มขอตั้งโต๊ะแถลงข่าวประกาศตัดขาดทิดสมปองต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมแฉยับถึงปมแตกหัก วีรกรรมต่างๆ ทั้ง อยากรวย ไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา ซึ่งล่าสุดติ๋มได้เปิดใจหมดเปลือกผ่านยูทูบของหนุ่ม นิกกี้ ณฉัตร เกี่ยวกับปมธุรกิจสีเทาและเรื่องที่มีเจ้าสัวดังยื่นข้อเสนอให้ทิดสมปองด้วย
ติ๋ม เผยว่า “ที่พี่ออกมาพูด มันก็จำเป็นอะ ถึงเวลาก็ต้องเจอกัน และ ถึงเวลาก็ต้องจากกัน พี่ว่าเจ็บและจบมันก็ดีกว่า ดีกว่ามันคาราคาซังอย่างนี้ เจ็บนะ ไม่ใช่ไม่เจ็บ เจ็บมาก วันที่เขาขึ้นไปข้างบนห้องเขานะคะ เขามาอยู่ที่นี่ 1 เดือนกับ 5 วัน ขึ้นไปห้องเขานี่ โอ้โห ช็อก!! ใจสั่น ตุบๆเลย เต้นตุบๆๆเลย วูบเลยว่า มันไม่เหลือเลยของ ของๆเขานะคะ ซึ่งเราก็เป็นคนซื้อให้ ทั้งซื้อให้เขา ให้เขาไปเลือก ของแฟนคลับ เยอะมาก ปรากฏเข้าไปถึงมันร้าง มันไม่เหลืออะไรเลย เหลือเพียงแค่รูปเรารูปเดียว ซึ่งเมื่อกี้นี่เขาเคยวางรูปพี่ กับ รูปเขา คู่กัน ซึ่งใครมาก็จะเห็นเลยว่ามีรูปพี่กับรูปเขาวางไว้อยู่บนหัวเตียง รักกัน วันนึงเคยรักกัน 555 ย้ำอยู่นั่นแหละ ตอนที่รู้ว่าเขาจะสึกคนที่ติดต่อมาทำงานกับพี่คือตอนนั้นเลขากับ นักข่าวก็ไปทำข่าว สัมภาษณ์เขาตามปกติ เค้าก็ขอให้ต่อสายหาพี่ ซึ่งตอนแรกก็จะไม่ได้นะ แต่เค้าบอกเองว่าจะคุย ขอคุยกับพี่ติ๋ม เราก็คุย คำแรกเลยนะ พี่ติ๋ม ผมจะสึกแล้ว วันที่ 29 นี้ ผมจะขอมาเช่าบ้านพี่ติ๋มและก็เช่าออฟฟิศเล็กๆได้มั้ย เพราะว่าผมจะทำมาหากินแล้ว”
“ตอนนั้นเขายังไม่มีที่อยู่ พี่ก็เลยให้ ก็ถือว่าช่วยคนที่เขาทำคุณประโยชน์กับศาสนามา 30 ปี พี่ก็บอกว่า บ้านไม่ต้องมาเช่าพี่หรอก บ้านพี่มีห้องว่างเยอะแยะมาก ก็บอกว่ามาอยู่ได้เลย ลูกพี่ก็นิยมอยู่คอนโดฯมากกว่าไม่ค่อยได้อยู่บ้านหลังนี้ เขาก็มาเดี๋ยวนั้นเลย พอวางหู ปุ๊บ ก็นั่งรถมาเลยอะ มาทันใดเลย ตอนนั้น มาแบบยังเป็นพระ พี่ยังต้องไหว้ ยังต้องกราบเขาเลย วันนั้นอะ มาดูที่พักว่าเขาอยู่ได้ไหม เขาชอบหรือเปล่า เขาก็มา แล้วเขาก็มาขอดูห้อง ดูว่าตรงไหนทำ ออฟฟิศได้บ้าง เขาบอกเค้าชอบมาก เขาบอกเขาจะสึกวันที่ 29 ตอน 13.09 น. เขาจะมาอยู่ที่นี่ เดี๋ยวเรามาช่วยกัน ผมจะมาช่วยทีวีพูลด้วย เดี๋ยวเราจะมาทำงานให้เต็มที่เลย ก็เป็นสัญญาจากเขานะคะ และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน เขาก็โทรฯมาอีกทีนึง บอกว่า มีเจ้าสัวใหญ่ เขามาออฟเฟอร์ผม เขาก็บอกว่าเขามีหนี้อยู่ 10 กว่าล้าน เขาก็เล่าให้ฟัง แต่พี่ก็มองในมุมดีอะนะว่า เขามีความกตัญญูต่อครอบครัวเขา เขาก็มีสวนยาง คือไปฟังจากลูกศิษย์เขาคนนึงมาว่าการมีสวนยางประมาณ 300 กว่าไร่ จะทำให้มีกำไรเดือนละเป็นแสน เพื่อมาเลี้ยงดูครอบครัว โดยที่เขาไม่ต้องไปวอรี่ และเขาจะส่งเงินไปให้ เพราะบ้านเขาแม่ก็ติดเตียง และพี่สาวก็ต้องดูแลหมดทั้งครอบครัว”
ติ๋ม เล่าต่อว่า “เค้าบอกว่าเค้ามีหนี้ มีที่ดินเพราะกะจะให้ครอบครัวไปทำกัน การทำสวนยางมันไม่ใช่ง่าย พอทำไม่ไหว ก็ประกาศขาย เค้าก็บอกว่ามันเป็นที่ สปก. ขายเท่าไหร่ก็ขายไม่ได้ เงินที่ซื้อก็เป็นเงินกู้นอกระบบ กู้นอกระบบมา ทำให้เขามีหนี้จ่ายแค่ค่าดอกเบี้ยเดือนละ 300,000 บาท โอ้โหพี่ฟังแล้วก็ตกใจเป็นพระทำไมเป็นพระมีหนี้เยอะแบบนี้ อะไรกัน ทำไมไปคิดการใหญ่แบบนี้ ชีวิตมันควรจะแบบสมถะสิคือพี่เองก็อยากช่วย แต่เค้าบอกว่า ตามที่พี่เราเลยนะ ว่ามีเจ้าสัว โผล่มา เป็นเจ้าสัวตระกูลใหญ่ของประเทศไทยเลย มาซื้อตัวเค้าแข่งกัน เค้าบอกแบบนี้นะ เค้าบอกว่าเค้าให้ผมแค่นี้นะ พี่ให้มั้ย พี่บอกว่า พี่ไม่ซื้อตัวใครอยู่แล้ว โดยนิสัยของพี่จะมาก็มา ไม่มาพี่ก็ไม่ได้อะไรนะ คิดดูอยู่กับเค้าก็ดี ถ้ามอง 2 มุม แต่ถ้าลองกดด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ สิ่งที่เค้าออฟเฟอร์ให้คือ
1. เงิน 16 ล้านบาทให้เลยทันที ก็เจ้าสัวคนนี้แหละให้ 16 ล้านยังไม่พอนะ ฟังแล้วจะตกใจให้บ้านอีก 1 หลังให้เงินอีก 100 ล้านบาท เพื่อตั้งบริษัทแม่ปอง ที่จะทำอะไรก็ได้ พี่ก็บอกเขาว่าให้เยอะขนาดนี้ต้องคิด 2 แบบละนะว่า เขาเอาไปเพื่อทำธุรกิจ หรือเขาเอาไปเพื่อเป็นนักการเมือง แต่ว่าถ้าเอาไปทำธุรกิจคือ สัญญา 5 ปี และ แบ่งกำไร 20% โอ้โห เป็นดิวที่ดีมาก(ยิ้ม) พี่ก็บอกเขาว่ามันผิดปกตินะ เราก็ต้องคิดว่ามันผิดปกติไหม เราก็ต้องคิดว่า Call Out แล้วเป็นกระแส และ พอเราก็เป็นกระแส ก็ให้เขาคิดดู”
ผู้บริหารดัง เล่าต่อว่า “แต่ถ้าไปเล่นการเมือง ถือว่าเราอ่อนหัดนะ เพราะเราอยู่ในวงการพระสงฆ์มาพี่ก็บอกว่าลองดูอีกสักพักดีไหม ไปคิดให้ดี แต่ถ้าอยากได้ก็แล้วแต่คิดเลย แต่พี่คิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่าธุรกิจแล้วแหละ ถ้าเขาให้เงินมากขนาดนี้ พี่ก็ให้คำแนะนำแค่นี้เอง พี่ก็คิดว่าเขาจะไม่มานะ เพราะทางนั้นโอ้โหให้ออฟเฟอร์ดีมาก แต่วันที่ 29 ตอน 14.30 น. เขาสึก และเขาก็มา มาอยู่กับพี่ บอกจะมาช่วยสร้างทีวีพูล ให้กับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม วันนี้ที่เขามาเจอกับพี่ เขาบอกเขาเป็นหนี้เหลือ 10 ล้าน 9 แสน คือเขาทำเงินได้เยอะจริง แต่เขาก็ใช้เงินเป็นกระดาษเลยจริงๆ”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากยูทูบ nickynachat
