เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่หอประชุมคุรุสภา มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “ SAFE สถานศึกษาปลอดภัย” ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กับ 8 กระทรวง 2 หน่วยงาน และพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างสมรรถนะนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาให้มีทักษะชีวิตในศตวรรษ ที่ 21 โดย นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า นับตั้งแต่ตนเข้ารับตำแหน่ง รมว.ศธ.ก็ได้ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา เรื่องความปลอดภัยจึงได้ถูกกำหนดให้เป็นวาระแรกใน 7 วาระเร่งด่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพราะตระหนักดีว่าหากสถานศึกษาไม่มีความปลอดภัยแล้ว จะไม่สามารถจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพให้แก่ผู้เรียนได้ และยังส่งผลต่อการพัฒนาการศึกษาของไทย รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม

นางสาวตรีนุช กล่าวต่อไปว่า การร่วมลงนามความร่วมมือในโครงการ “SAFE สถานศึกษาปลอดภัย” นี้เพราะทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญร่วมกันว่า มีความจำเป็นอย่างสุงสุดในการจัดการปัญหา ความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับนักเรียน และเยาวชน ใน 4 ด้าน ได้แก่ ภัยที่เกิดจากการใช้ความรุนแรงของมนุษย์ ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ ภัยที่เกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ และภัยที่เกิดจากผลกระทบต่อสุขภาวะทางกายและจิตใจ ซึ่งความเสี่ยง ความไม่ปลอดภัย เหล่านี้ สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด และ ศธ.เองก็มีความมุ่งมั่นในการจัดให้มีรูปแบบ วิธีการ กระบวนการในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ให้เกิดความปลอดภัยในทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ มีความสุข เพื่อนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษาเด็กและเยาวชนไทย

นางสาวตรีนุช กล่าวอีกว่า เกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ศธ.โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้พัฒนาระบบการแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยขึ้น ใช้ชื่อว่าศูนย์ “MOE SAFETY CENTER”โดยใช้ Platform ดิจิทัล เป็น Application ในการแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัย และได้พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาในทุกสังกัดของ ศธ. ให้มีความรู้ มีความเข้าใจในการใช้งานระบบ เพื่อรับแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยที่มีผลต่อนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงให้ความสำคัญกับการอบรมครูผู้สอนให้มีความรู้ มีทักษะที่จะนำไปสื่อสารกับเด็กในวัยเรียน ด้วยการจัดทำโครงการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อสร้างความปลอดภัย แบบคู่ขนานกัน

“วันนี้ถือเป็นการเปิดตัวศูนย์ MOE SAFETY CENTER อย่างเป็นทางการ โดยสามารถแจ้งเหตุได้ 4 ช่องทาง ดังนี้ ใน Application MOE Safety Center, www.MOESafetyCenter.com, LINE @MOESafetyCenter หรือที่ call center 0-2126-6565 ทั้งนี้ ต้องขอบคุณ สพฐ. ที่ได้ขยายแนวทางปฏิบัติงาน ซึ่งช่วยให้ความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น ได้รับการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยง และความรุนแรง แก้ไขได้ถึงแหล่งต้นตอของปัญหา มีการติดตามความคืบหน้า มีความเป็นธรรมและโปร่งใสแก่ทุกฝ่าย โดยมีการรายงานการแก้ไขปัญหาแบบ Real-time ที่สำคัญได้เก็บเป็นฐานข้อมูล Big-Data ที่จะนำมาวางแผนและกำหนดนโยบายการพัฒนาสถานศึกษาและด้านความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ เพื่อขยายผลในการป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม รวมถึงการสร้างทักษะให้ผู้เรียนมีความสามารถในการดูแลตนเองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ด้วย” น.ส.ตรีนุช กล่าวและว่า ทั้งนี้นักเรียนไม่ต้องกังวลว่าสิ่งที่ร้องเรียนจะถูกเปิดเผยเราจะเก็บข้อมูลทุกอย่างเป็นความลับ และติดตามการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด อีกทั้งเชื่อมั่นได้เลยว่าจะไม่มีการไกล่เกลี่ยหรือช่วยเหลือ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน

นางสาวตรีนุช กล่าวด้วยว่า ความร่วมมือจาก 8 กระทรวง และอีก 2 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สํานักงานตํารวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม และสำนักนายกรัฐมนตรี ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “SAFE สถานศึกษาปลอดภัย” ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับการศึกษาไทยอีกครั้งหนึ่ง.