กรณีคนร้ายชายหญิง ร่วมกันก่อเหตุหลอกลวงร้านทองศรีรุ่งเรือง เลขที่ 365 ถนนมีชัย ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย โดยฝ่ายชายทำทีขอซื้อทองไปฝากญาติ ส่วนฝ่ายหญิงแยกไปธนาคารนำเช็คเข้าบัญชีให้ร้านทอง 2.9 ล้านบาท ก่อนร้านทองตรวจสอบกับทางธนาคารปรากฎตัวเลขยอดเงินดังกล่าวเข้ามาแล้ว จึงเอาทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 100 บาท ส่งให้คนร้ายชายหลบหนีไป กระทั่งมารู้ภายหลังว่าเป็นการเคลียริ่งเช็ค ตัวเงินยังไม่เข้าจึงรู้ว่าถูกหลอก เหตุเกิดท้องที่ สภ.เมืองหนองคาย เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ทอง100บาท! ล่าหนุ่มสาวเชือดนิ่มแผนเคลียริ่งเช็ค ตุ๋นร้านทองสูญ2.9ล.

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. พ.ต.อ.สุรกิจ ค้วนเครือ ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตรวจสอบพบว่าฝ่ายหญิงที่นำเช็คไปติดต่อที่ธนาคาร จนสามารถยืนยันตัวบุคคลเป็นที่แน่ชัดแล้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย จึงนำหลักฐานไปขออำนาจศาลจังหวัดหนองคาย อนุมัติออกหมายจับ น.ส.พิชชาภา (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ชาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา แล้วข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และศาลจังหวัดหนองคายได้อนุมัติหมายจับ ที่ จ23/2565 ลงวันที่ 12 ก.พ. 2565 ซึ่งเป็นคดีอาญา อายุความ 10 ปี จากนั้นได้กระจายหมายจับไปยังโรงพักต่างๆ แล้ว

พ.ต.อ.สุรกิจ เผยอีกว่า ส่วนผู้ต้องหาชายที่เป็นผู้ติดต่อกับร้านทองนั้น ขณะนี้ตำรวจกำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่าเป็นใคร เบื้องต้นจากการสอบถามผู้เสียหายที่ได้พูดคุยกับคนร้าย พบว่ามีลักษณะคล้ายสาวประเภทสอง และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดช่วงเวลาเกิดเหตุ คาดว่าอาจจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกคนเป็น 3 คน โดยคนหนึ่งขับรถโดยใช้รถฮอนด้า เอชอาร์วี สีขาว พาผู้หญิงไปส่งในห้างอัศวรรณ เพื่อเดินเรื่องธนาคาร จากนั้นขับรถพาชายคนร้ายมาส่งที่ร้านทอง อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนติดตามตัวผู้หญิงให้เร็วที่สุด เพื่อสอบสวนขยายผลจับสมาชิกแก๊งทั้งหมดมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.