ค่ำคืนวานนี้ (20 ก.ค.) บนโลกโซเชียลได้มีการแชร์โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กของผู้ใช้ชื่อว่า Phuri Phatara ระบุขอความช่วยเหลือ ชาวบ้านติดเชื้อโควิด-19 เดินมาแล้วล้มไปตอน 10 โมงเช้าของวันนี้ ตอนแรกมีกู้ภัยมาดูให้ออกซิเจนช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 โมง แต่สุดท้ายช่วยไม่ทันเสียชีวิตในที่สุด จนเวลานี้ 2 ทุ่มกว่าๆ ศพก็ยังนอนอยู่ที่เดิม ชาวบ้านตรงนั้นบอกว่า แจ้งหลายหน่วยงานแล้ว แต่ไม่มีใครมาเก็บศพ ตอนนี้ศพยังคงอยู่ที่เดิม ใครช่วยส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหน่อยนะครับ น่าสงสารมากๆ สถานที่ตรอกบ้านพานถม ตรงข้ามวัดบวรฯ
ต่อมาเวลา 22.30 น. ทางเจ้าหน้าที่มูลป่อเต็กตึ๊ง ได้สวมชุดพีพีอีเข้าดำเนินการเก็บร่างผู้เสียชีวิตที่บริเวณตรอกบ้านพานถม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะนำร่างส่งชันสูตรที่ รพ.วชิรพยาบาล
นับรวมระยะเวลาที่ปล่อยให้ศพติดโควิดนอนตายอนาถกลางถนนกว่า 8 ชั่วโมง
นี่เป็นศพแรกที่เสียชีวิตแบบหดหู่กลางถนน โดยไร้หน่วยงานมาดูแลเก็บศพ จนชาวบ้านผวา
ไม่นานก็มีเหตุพบศพชายนอนเสียชีวิตปริศนา บริเวณบาทวิถี หน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงสีดำ รองเท้าผ้าใบ มีหน้ากากอยู่ใต้คาง อายุประมาณ 40 ปี ไม่พบเอกสารยืนยันตัวตน จากการสอบสวนทราบว่ามีผู้พบเห็นว่าชายคนดังกล่าวเดินมาใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนจะล้มลงหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เกิดอะไรขึ้นหลังจากเจอเรื่องหดหู่ปล่อยศพติดโควิดทิ้งกลางถนนมาได้ไม่นาน
ต่อมาอาสาสมัครต้องสวมชุด PPE ป้องกันเชื้อ ก่อนนำแอลกอฮอล์ฉีดพ่นบริเวณโดยรอบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการ swab เบื้องต้นผลเป็นลบ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีความเสี่ยงสูง ต้องรอชุดปฏิบัติการมารับศพไปดำเนินการต่อไป
มาถึงตรงนี้เริ่มตั้งคำถามว่า 2 ศพที่เสียชีวิตบนถนนนั้น เกิดอะไรขึ้น แต่ยังไม่สิ้นความคิดข่าวศพที่ 3 นอนตายริมทางเดินเท้าก็เกิดขึ้นอีก
ชายวัย 59 นอนเสียชีวิตหน้าศึกษาภัณฑ์ ถนนราชดำเนิน รายนี้มีเอกสารติดตัวเป็นบัตรประชาชน ระบุชื่อ นายเสรี เรืองโรจนฤทธิ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 265/5 ถนนสุขุมวิท ต.มาบตาพุต อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สวมชุดพีพีอี เข้าดำเนินการเก็บศพผู้เสียชีวิต
สอบถามชาวบ้านใกล้เคียงทราบว่า นายเสรีนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วง 18.00 น. ของวันนี้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
เบื้องต้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ตายติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำส่งชันสูตรที่ รพ.วชิรพยาบาล เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
เมื่อเหตุการณ์การเสียชีวิตของทั้ง 3 รายมีลักษณะคล้ายคลึงกัน 1 รายยืนยันการติดเชื้อโควิด อีก 2 รายรอชันสูตร
นี่จึงเป็นคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนเราในสถานการณ์โควิดระบาดอย่างหนัก!
เชื่อว่าไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน หรือจะเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง
อย่าให้ภาพเหตุการณ์แบบนี้ฉายซ้ำ หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องตระหนักและวางแผนรับมือ อย่าปล่อยให้บ้านเราต้องหดหู่ใจไปมากกว่านี้เลย.
