เจ้าหน้าที่จากสำนักงานนายอำเภอแอราพาโฮเคาน์ตี รัฐโคโลราโด แถลงว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ‘เอมมาลีน เหงียน’ สาวอเมริกันอายุ 18 ปี เข้ารับการผ่าตัดเสริมขนาดทรวงอกด้วยศัลยกรรมพลาสติก แต่กลับมีอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันหลังจากรับยาชาเข้าสู่ร่างกาย
เหงียนอยู่ในภาวะโคม่าหลังจากการผ่าตัด ทำให้เธอตกอยู่ในสภาวะ ‘ผัก’ มีชีวิตอยู่ได้ด้วยอุปกรณ์พยุงชีพและไม่เคยฟื้นคืนสติอีกเลยหลังจากนั้น ครอบครัวของเธอตัดสินใจยื่นฟ้องทีมแพทย์ตั้งแต่ปี 2562
เหงียนเสียชีวิตในอีก 14 เดือนต่อมา ระหว่างการสืบสวนคดี
เมื่อวันพุธที่ 16 ก.พ. สำนักงานนายอำเภอแอราพาโฮเคาน์ตี ออกหมายจับนายแพทย์จอฟฟรีย์ คิม วัย 52 ปี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของเหงียน คิมโดนแจ้งข้อหาเจตนาประทุษร้ายผู้อื่นและฆาตกรรมโดยประมาท เขาเป็นฝ่ายยอมมอบตัวแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมาพร้อมกับทนายความของเขาเมื่อวัน 16 ก.พ. และประกันตัวออกไปหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการจับกุมและแจ้งข้อหา
เร็กซ์ มีเคอร์ พยาบาลผู้วางยาชาก็โดนข้อหาฆาตกรรมเช่นกัน และได้มีการออกหมายจับเธอไปแล้ว
คิมและมีเคอร์ ถูกกล่าวหาว่าปล่อย เหงียน ทิ้งไว้ตามลำพังโดยไม่มีการเฝ้าดูอาการเป็นเวลานานถึง 15 นาที หลังจากมีการให้ยาชาในระหว่างรับการผ่าตัด ซึ่งพ่อแม่ของเหงียนระบุในบันทึกการยื่นฟ้องว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกระบวนการรักษา
บันทึกระบุถึงการสันนิษฐานว่าอาจเกิดความผิดปกติในการให้ยาชาต่อเหงียน ซึ่งทำให้เธอมีอาการหน้าเขียว ปากเขียว และผิวส่วนใหญ่ซีดลง
เหงียน ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นอย่างฉับพลันถึง 2 ครั้ง และต้องปั๊มหัวใจ ในบันทึกคำฟ้องร้องต่อศาลกล่าวหาว่า ทีมแพทย์รอนานถึง 5 ชั่วโมง กว่าจะโทรฯ แจ้งหน่วยฉุกเฉินของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีผลทำให้เหงียนต้องตกอยู่ในภาวะกึ่งไร้สติเนื่องจากสมองได้รับความเสียหาย เธอต้องมีผู้ดูแล 24 ชม. ต้องรับการให้อาหารทางสายยางจนกระทั่งเธอเสียชีวิต
หลังจากการสืบสวนในฐานะคดีอาญาที่กินเวลายาวนาน ฝ่ายตำรวจแถลงว่า เจ้าหน้าที่ถือว่าคดีนี้เป็นคดีอาญาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 การสืบสวนต้องใช้เวลานานกว่า 2 ปีจึงเสร็จสิ้น ซึ่งต้องสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องหลายสิบราย รวมถึงการค้นหาหลักฐานต่าง ๆ และหวังว่าจะนำความยุติธรรมมาให้ครอบครัวของเหงียนได้ในที่สุด
แหล่งข่าวและเครดิตภาพ
