ยังคงเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ที่หลายคนสนใจอย่างมากมายสำหรับกรณีการเสียชีวิตของนักร้อง นักแสดง และศิลปินแห่งชาติคนดัง ต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา อายุ 77 ปี ที่จากไปอย่างสงบจากโรคมะเร็งปอด ท่ามกลางความอาลัยของคนในวงการบันเทิงและแฟน ๆ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดในเฟซบุ๊กของ ดาราภาพยนตร์ ได้มีการอัพเดทข้อมูลว่า “#เรื่องเศร้าคนบันเทิง#สิ้นศิลปินแห่งชาติ#ต้อยเศรษฐา#เศรษฐาศิระฉายา ศิลปินระดับตำนาน แห่ง #ดิอิมพอสสิเบิ้ล เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง สิริอายุ 77 ปี พิธีสวดอภิธรรม #วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร #ศาลา1 เป็นข่าวสุดเศร้าของวงการบันเทิงกับการจากไป ของศิลปินระดับตำนาน อาต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา ที่ล้มป่วยและรักษาตัวด้วยโรงมะเร็งมานานปี และต้องกลับไปทำคีโมอีกครั้งเมื่อปลายปี64 ที่ผ่านมาหลังจากหยุดพักไป 3 เดือน เนื่องจากก้อนที่ปอดที่เคยมีขนาด 8 ซม. ตอนเริ่มต้นรักษา ลดลงเหลือประมาณ 4 ซม. ลดไปแล้วครึ่งนึงและยังไม่ได้มีการเติบโตขึ้นตลอดระยะเวลาที่รักษา นักแสดงอาวุโสมีกำลังใจที่ดีจากครอบครัว

“อีกทั้งยังได้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานกำลังใจโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คุณจันทนี ธนรักษ์ เป็นผู้แทนพระองค์ พระราชทานแจกันดอกไม้และกระเช้าของเยี่ยม ให้แก่เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติ ในช่วงเข้ารับการรักษาตัวรอบล่าสุดและเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลา 04.42 น. ของวันอาทิตย์ที่20 กุมภาพันธ์ 2565 ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สิริอายุ 77 ปี โดยจะตั้งสวดอภิธรรม ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร โดยทายาทได้ขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในวันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา 17.30 น. ณ ศาลา 1วัดเทพศิรินทราวาส”

“#กำหนดสวดพระอภิธรรมศพ ระหว่างวันที่ 21-27 กุมภาพันธ์ เวลา 19.00 น. ณ ศาลา 1วัดเทพศิรินทราวาส แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ซึ่งทายาทจะเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศล 100 วัน และสวธ.จะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพต่อไปขอแสดงความเสียใจกับ #ครอบครัวศิระฉายา ด้วยค่ะ เศรษฐา ศิระฉายา (เกิด 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 -) ชื่อเล่น ต้อย เป็นพิธีกร นักแสดง และอดีตนักร้องนำวงดิอิมพอสซิเบิ้ล วงสตริงคอมโบที่ประสบความสำเร็จและยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงดนตรีหลายวงที่กำเนิดขึ้นในยุคต่อมา ในปี พ.ศ. 2554 เศรษฐาได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากลตำแหน่งสุดท้ายในวงการบันเทิง #ประธานมูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส เศรษฐา ศิระฉายา เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 จังหวัดพระนคร จบมัธยมปลายจากโรงเรียนวัดบวรนิเวศ เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุประมาณ 16 ปี ด้วยการขนเครื่องดนตรีในวงดนตรีตามคำชักชวนของน้าชายของเขา สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ อดีตพระเอกภาพยนตร์ชื่อดังในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองต่อมาเศรษฐาได้ฝึกหัดทักษะด้านดนตรีแบบครูพักลักจำ จนกระทั่งได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องตามสถานบันเทิงต่าง ๆ เช่น ตั้งวงหลุยส์กีต้าร์เกิร์ล กระทั่งได้รวมตัวกับเพื่อน ๆ นักดนตรีตั้งวงดนตรี Holiday J-3 ร่วมกับวินัย พันธุรักษ์, พิชัย ทองเนียม, อนุสรณ์ พัฒนกุล และสุเมธ อินทรสูต ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็น Joint Reaction และเปลี่ยนอีกครั้งในชื่อ ดิอิมพอสซิเบิ้ล (The Impossibles) ซึ่งเป็นชื่อการ์ตูนชื่อดังของอเมริกาในสมัยนั้น โดยเขารับบทบาทเป็นนักร้องนำ”

“ปี พ.ศ. 2512 ดิอิมพอสซิเบิ้ล สามารถคว้าถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศการประกวดวงสตริงคอมโบ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งผลให้เริ่มเป็นที่นิยมและเป็นจุดเปลี่ยนให้เศรษฐาได้เข้ามาสัมผัสโลกภาพยนตร์เป็นครั้งแรก เมื่อเขาและเพื่อน ๆ ได้รับการทาบทามจาก เปี๊ยก โปสเตอร์ ให้มาร่วมบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง โทน (2513)เศรษฐา จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ หลักสูตรโครงการพิเศษ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต MBA มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ดิอิมพอสซิเบิ้ลยังคงชนะเลิศการประกวดวงสตริงคอมโบอีก 2 ครั้งติดต่อกัน หลังจากนั้นและได้บรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง อาทิ ดวง (2514), สวนสน (2514), ระเริงชล (2515), ตัดเหลี่ยมเพชร (2518) ฯลฯ กลายเป็นวงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ปี พ.ศ. 2518 หลังกลับมาจากการไปทัวร์ที่ต่างประเทศ เศรษฐาก็ได้รับการชักชวนจาก จุรี โอศิริ ให้มาแสดงภาพยนตร์อย่างจริงจังครั้งแรกคือเรื่อง ฝ้ายแกมแพร (2518) แต่ก็ได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาครองจากผลงานดังกล่าวได้ทันที

“ปี พ.ศ. 2519 ดิอิมพอสซิเบิ้ล ประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ เศรษฐาจึงก้าวเข้าสู่โลกมายาอย่างเต็มตัว มีบทบาทโดดเด่นทั้งการเป็นพิธีกรและนักแสดง นับเป็นดารายอดฝีมือคนหนึ่งซึ่งสามารถรับบทบาทได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นบทดี บทร้าย บทตลก ส่งผลให้มีผลงานออกมามากมายจวบจนปัจจุบัน โดยเรื่องที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งคือ ชื่นรัก (2522) ซึ่งเขาได้รับบทพระเอกประกบคู่กับ อรัญญา นามวงศ์ นางเอกชื่อดัง เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่ชีวิตกันในเวลาต่อมาปี พ.ศ. 2554 เศรษฐา ศิระฉายา ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) สมรสกับ อรัญญา นามวงศ์ มีบุตรสาว 1 คน ชื่อ พุทธิดา ศิระฉายา หรือน้องอีฟ แต่งงานสมรสกับหนุ่มนักธุรกิจ ต้น – เติมศักดิ์ ศักดาพร เคยทำธุรกิจร้านขายหอยทอดร่วมกับภรรยา ที่ศูนย์อาหาร ศูนย์การค้ามาบุญครอง ตั้งแต่ศูนย์การค้าเริ่มเปิดดำเนินการใหม่ ๆ ปัจจุบันเป็นผู้สร้างละครโทรทัศน์ในสังกัดช่อง 3 และช่อง 7”

“#รางวัลที่ได้รับ* พ.ศ. 2553 : #รางวัลพระราชทานบันเทิงเทิดธรรม (พ.ศ. 2553) จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี* พ.ศ. 2553 : #รางวัลการเชิดชูบุคคล ทางด้านผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2553* พ.ศ. 2554 : #รางวัลศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง#เครื่องราชอิสริยาภรณ์* พ.ศ. 2551 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 7 เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ (ร.ง.ภ.)* พ.ศ. 2552 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)* พ.ศ. 2555 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)”

หลังจากมีการอัพเดทข้อมูลต่าง ๆ ลงไป ก็มีแฟน ๆ ทยอยกันเข้ามากดไลค์พร้อมมอบกำลังใจให้กับครอบครัวของเศรษฐา และขอให้ดวงวิญญาณของนักร้องดังไปสู่สุคติจำนวนมาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจากดาราภาพยนตร์