เรื่องราวของคนหัวร้อนเดือดกลางถนนรัชดาฯ เมื่อหญิงสาวกับลูกสองคนวัย 2 ขวบ กับ 7 ขวบ โพสต์คลิปในเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นเหตุการณ์ชายคนหนึ่งโมโหเข้าไปเปิดประตูรถแท็กซี่ที่ลูกของเธอทั้งสองคนนั่งอยู่ที่เบาะหลัง และทำร้ายร่างกายคนขับรถแท็กซี่ จนชาวบ้านที่เห็นต้องเข้าไปช่วยห้ามปรามเอาไว้ โดยระบุว่า

รบกวนช่วยแชร์หน่อยค่ะอันนี้เราสามารถแจ้งความได้ไหมคะ เพราะว่าอยู่ดีๆ ก็มีคนที่ไหนไม่รู้จะมาทำร้ายคนขับรถแท็กซี่ ทุบรถแท็กซี่จนบุบ บอกว่าคนขับแท็กซี่ไม่ยอมเปิดไฟกระพริบ แล้วตอนนั้นมีลูกเราอยู่ในรถแท็กซี่ อายุ 2 ขวบกับ 7 ขวบ แล้วเราบอกผู้ชายคนที่จะทำร้ายคนขับแท็กซี่ว่าในรถมีเด็กอยู่ 2 คนซึ่งเป็นลูกเรา เราขอให้เขาหยุดทำแบบนี้ได้ไหม แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุดแล้วลูกเรา 2 คนตกใจร้องไห้ อย่างนี้เราสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ไหมคะ

และต่อมามีโพสต์เพิ่มเติมว่า “โกรธตำรวจมากขนาดยืนร้องไห้หน้า สน.ห้วยขวาง โทรไปร้องไห้กับเพื่อนว่าตำรวจไม่รับแจ้งความ เพราะเราไม่ใช่ผู้เสียหาย โกรธที่ตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ จะไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดก็ไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่ผู้เสียหาย ทั้งที่ๆ เราเป็นคนอยู่ในเหตุการณ์ แล้วมันกำลังเกิดกับเรา คุณภาพชีวิตประชาชนไม่มีอะไรดี เมื่อตำรวจไม่สามารถช่วยอะไรได้เราก็ต้องช่วยตัวเอง ขอบคุณป้าร้านค้าแถวนั้นมากนะคะที่ช่วยให้ข้อมูลหนู”

ต่อมาคนขับแท็กซี่ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ และโพสต์ระบุว่า ชายหัวร้อนรายดังกล่าวได้ด่าว่าตนเองไม่เปิดไฟสัญญาณทั้งที่เปิดแล้วตั้งแต่แรก เข้ามาต่อว่าสารพัด พร้อมทั้งยังพยายามทำร้ายร่างกาย พร้อมขอโทษผู้โดยสารที่ทำให้ต้องตกอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้

ล่าสุดหญิงสาวโพสต์ข้อความ ตอนนี้ตำรวจจับผู้กระทำผิดได้แล้ว ขอบคุณสำนักข่าวทุกช่องและเพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ที่ช่วยกันแชร์คลิป และขอบคุณพี่คนขับแท็กซี่ด้วยที่ยอมไปแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกับคนร้าย เราไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก ถ้าเกิดทุกคนไม่ได้โชคดีแบบเรา เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียก่อน และเราก็ไม่ต้องการให้ผู้กระทำผิดมากราบไหว้สวยๆ พร้อมกระเช้าแค่นั้นจบ เราอยากให้เขาได้รับบทเรียนและจำไปจนวันตายว่าอย่าได้ไปทำ…แย่ๆ ไปทำร้ายร่างกายและทรัพย์สินของใครอีก

ชมคลิป