นายสมเกียรติ อึงอารี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีเนียร์ คอม จำกัด  ผู้พัฒนาและให้บริการซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อและการใช้ซอฟต์แวร์ ขององค์กรในไทยอย่างมาก โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ด้านบริการการเงิน หรือ Financial Software Service ซึ่งการเพิ่มขึ้นของธุรกิจเช่าซื้อและจำนำทะเบียน ต้องให้บริการที่รวดเร็วและสร้างความพึงพอใจมากที่สุด นอกจากนั้นการทำธุรกรรมและการชำระเงินดิจิทัลจะกลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ซอฟต์แวร์จะต้องมี ขณะที่หลายองค์กรในธุรกิจนี้ยังคงใช้โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัยที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนมาตลอด 10-20 ปี จึงทำให้หลังโควิด-19 อาจจะฟื้นตัวได้ยาก

“กว่าครึ่งของธุรกิจด้านบริการการเงินยังใช้เทคโนโลยีแบบเก่า ขณะที่บริษัทชั้นนำหลายแห่งได้ใช้เวลาช่วงโควิด-19 ลงทุนปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ โดยใช้เวลาติดตั้งและทดสอบระบบถึงหนึ่งปี รายที่ยังไม่ตัดสินใจปรับเปลี่ยน จะเสียเปรียบและจะเห็นช่องว่างอย่างชัดเจนหลังโควิด-19 ซึ่งรายที่ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ จะสร้าง ส่วนแบ่งการตลาดหนีคู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ และโฉมหน้าธุรกิจนี้จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง”

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า  ในช่วงระบาดของโควิด-19 ผู้บริโภคใช้โมบาย แบงค์กิ้งเติบโตสูงถึง  71.3% และมีการใช้อี-วอเล็ต 28.6% ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าต้องปรับตัวทำให้เกิดการชำระสินค้าและบริการผ่าน คิวอาร์ โค้ด( QR code) และ บาร์ โค้ด (Bar code) ดังนั้นซอฟต์แวร์ที่จะรองรับพฤติกรรมใหม่นี้จะต้องรองรับ ดิจิทัล เพย์เม้นท์ หรือการจ่ายเงินแบบดิจิทัลได้ทุกธนาคาร เริ่มตั้งแต่กระบวนการ ไปจนถึงการสร้าง คิวอาร์ โค้ด หรือ บาร์ โค้ด  ลงในใบแจ้งหนี้เพื่อส่งให้ลูกค้า ที่ต้องส่งได้ทั้ง เอสเอ็มเอส  อีเมล์ หรือไปรษณีย์ สามารถทำการจ่ายผ่าน โมบาย แบงค์กิ้ง หรือ อี-วอเล็ต ได้ทุกค่ายอย่างสะดวกและรวดเร็ว ตรวจสอบได้ ทำให้ลูกค้ามั่นใจทุกครั้งที่จ่ายค่างวด สำหร้บสินเชื่อประเภทต่างๆ ทั้งเงินกู้และเช่าซื้อ

“ในปัจจุบันตลาดเช่าซื้อมีการแข่งขันที่สูงอยู่แล้ว และหลังจากโควิด-19 นั้นจะเพิ่มการแข่งขันที่สูงมากขึ้นอีก ธุรกิจที่สามารถอนุมัติได้เร็วกว่าย่อมสร้างความได้เปรียบและได้ส่วนแบ่งการตลาดที่สูงขึ้น ระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้ต้องมีการแจกงานแบบอัตโนมัติ เพื่อให้การทำงานของพนักงานสั้นลงเหลือ 5-10 นาทีก็สามารถอนุมัติปล่อยสินเชื่อได้”

ทั้งนี้อีกบริการหนึ่งที่จะกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ต้องมีซอฟต์แวร์ที่สามารถเชื่อมการทำงานกับ Social Media หลัก อย่างไลน์ โดยต้องมีระบบ Chatbot ที่สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ตลอดเวลา ตามข้อความที่ setup เอาไว้ ซึ่งจะช่วยให้ผุ้ประกอบการลดต้นทุนและพนักงานในการรับสายการติดต่อของลูกค้า การรับข้อความอัตโนมัติเมื่อมีการชำระเงิน สอบถามยอดหนี้คงเหลือแบบ real time

ส่วนของพนักงานนั้น ในช่วงที่ผ่านมาองค์กรทุกแห่งถูกบังคับให้ทำงานที่บ้าน จนทุกแห่งเกิดความเคยชินและสามารถปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้แล้ว ดังนั้นเทคโนโลยี Remote Working จึงเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรต้องเพิ่มการลงทุนเพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจไม่เกิดการสะดุด แต่เนื่องจากหลายองค์กรในประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจ Finacial Service ยังใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัยอย่างมาก โอกาสที่จะมีการยกเครื่องและลงทุนเพื่อนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้จึงมีสูงมาก โดยเฉพาะการเชื่อมต่อข้อมูลแบบ real time ผ่าน API

สำหรับซีเนียร์ คอมนั้นก็มีการปรับซอฟต์แวร์ H-Meter2020 ซึ่งเป็น Financial Software Service ครั้งใหญ่ในช่วงระบาดโควิด-19  ทำให้กลายเป็นซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับการทำงานออนไลน์ที่เชื่อมผ่านโครงข่ายต่างสภานที่ การชำระเงินออนไลน์ที่เชื่อมต่อกับ Core Application รวมถึงการทำงานที่ต้องเว้นระยะห่าง และยังได้นำระบบคลาวด์อย่าง “นูทานิคซ์” ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกทางด้านโซลูชัน Hyper-Converged Infrastructure (HCI) ที่ช่วยให้การกระจายข้อมูล การเข้าถึง และการบริหารข้อมูลกลางมีประสิทธิภาพมากขึ้นมาให้บริการ ด้วยปัจจัยสถานการณ์และการปรับปรุงซอฟต์แวร์ ครั้งใหม่นี้จะทำให้รองรับการเติบโต 30% ต่อปีของบริษัทได้ต่อไป.