สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ได้ลงพระนามในระเบียบมหาเถรสมาคม กำหนดหลักเกณฑ์ให้มีรองเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะจังหวัด พ.ศ.2537 แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2565) แล้วตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา

โดยระเบียบมหาเถรสมาคมดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ ในข้อ 3 ระบุว่า ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ 4 (ง) แห่งระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีรองเจ้าคณะอำเภอ และรองเจ้าคณะจังหวัด พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2565) “ข้อ 4 (ง) มีวัดไม่ต่ำกว่า 150 วัด ให้อำเภอนั้นมีรองเจ้าคณะอำเภอเพิ่มได้ตามความเหมาะสม” และข้อ 4 ระบุว่า ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ 5 (ง) แห่งระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีรองเจ้าคณะอำเภอ และรองเจ้าคณะจังหวัด พ.ศ.2537 แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2565) “ข้อ 5 (ง) มีวัดไม่ต่ำกว่า 750 วัด ให้จังหวัดนั้นมีรองเจ้าคณะจังหวัดเพิ่มได้ตามความเหมาะสม”

ทั้งนี้สำหรับหลักการและเหตุผลในการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบมหาเถรสมาคมดังกล่าว ระบุไว้ว่า เหตุผลในการประกาศใช้ระเบียบมหาเถรสมาคม กำหนดหลักเกณฑ์ให้มีรองเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะจังหวัด พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2565) เนื่องจากระเบียบมหาเถรสมาคม กำหนดหลักเกณฑ์ให้มีรองเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะจังหวัด พ.ศ.2537 ได้ประกาศใช้มาเป็นระยะเวลานาน และในปัจจุบัน ท้องที่อำเภอ และจังหวัด มีวัดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อให้การบริหารการปกครองคณะสงฆ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ดีงาม มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับภาวการณ์ปัจจุบัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา15 ตรี แห่งพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 และตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 จึงจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบมหาเถรสมาคมนี้