เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 มี.ค. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.แทน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ปคม., นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม วางแผนนำกำลังเข้าจับกุมนายนิมิตร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ครูสอนวิชาพละศึกษาของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 366/2565 ลงวันที่ 28 ก.พ. 2565 ข้อหา “พรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร, พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยา” ได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์

สืบเนื่องจาก น.ส.จี (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูก นายนิมิตร์ ผู้ต้องหารายนี้ กระทำชำเรารวมถึงถ่ายคลิปวิดีโอข่มขู่แบล็กเมล์ เพื่อให้ยอมทำตามข้อเรียกร้องตลอดระยะเวลาเกือบ 8 ปี จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงจนทราบว่า เมื่อประมาณปี 2557 ขณะนั้นผู้เสียหายมีอายุประมาณ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร ได้ประสบปัญหาชีวิต เนื่องจากมารดาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ต้องใช้ชีวิตอยู่กับยายตามลำพัง ต่อมานายนิมิตร์ ซึ่งเป็นครูสอนวิชาพละศึกษา ได้ทำทีอาสาเข้ามาช่วยเหลือดูแล และให้เรียกตัวเองว่าพ่อ แต่เมื่อผู้เสียหายเริ่มไว้ใจ กลับฉวยโอกาสล่อลวงมากระทำชำเราที่บ้านพัก พร้อมกับถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร โดยทำเช่นนี้เรื่อยมาเป็นเวลาร่วม 8 ปี จนผู้เสียหายเกิดตั้งครรภ์ แต่ด้วยความที่เกรงว่าเรื่องจะแตก นายนิมิตร์ จึงบังคับพาผู้เสียหายไปทำแท้งเอาเด็กออก

ต่อมาประมาณเดือน ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้ย้ายมาพักอาศัยอยู่กับป้าที่กรุงเทพมหานคร ด้วยความหึงหวงและเกรงว่าผู้เสียหายจะตีตัวออกห่าง นายนิมิตร์ จึงพยายามติดต่อแต่ก็ไม่เป็นผล กระทั่งต่อมาประมาณเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา นายนิมิตร์ ทราบว่าผู้เสียหายกำลังเดินทางกลับมาเยี่ยมญาติที่ จ.กำแพงเพชร จึงไปดักเฝ้ารอ พร้อมกับใช้อาวุธมีดข่มขู่ รวมถึงใช้กำลังทำร้ายร่างกายเพื่อบังคับพาไปร่วมหลับนอน รวมถึงถ่ายคลิปวิดีโอส่งมาข่มขู่ให้ยอมกลับมาอยู่ด้วยกันที่กำแพงเพชรตามเดิม หากไม่ยอมทำตามจะนำคลิปไปเผยแพร่ให้คนอื่น ๆ ดู ผู้เสียหายจึงทนแบกรับพฤติกรรมและความกดดันไม่ไหว นำเรื่องบอกให้ญาติและคนในครอบครัวทราบก่อนพากันเข้าแจ้งความกับทางกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) จนมีการออกหมายจับ ก่อนวางแผนทำทีติดต่อนัดหมายให้ นายนิมิตร์ มาพบกันที่ร้านอาหารจนสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งทั้งนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำ.