จากกรณีที่ นายพงศ์ธันศ์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปกรที่ 11 อ.เมือง จ.สงขลา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร จ.สงขลา เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 65 เพื่อให้ดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุกเข้าไปตัดถนน และขุดดินลูกรัง และบุกรุกเข้าครอบครองที่ดินในเขตโบราณสถาน เขาแดง เขาเขียว ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จำนวน 2,200 ไร่ โดยหลังการร้องทุกข์กล่าวโทษ ปรากฏว่า ไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาบุคคลเพื่อเป็นพยานในการจับกุม ผู้ที่ทำการบุกรุกที่ดิน ในเขตโบราณสถาน ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภาคประชาสังคม ใน จ.สงขลา และคนในพื้นที่ อ.สิงหนคร เป็นอย่างมาก เพราะคนในพื้นที่ต่างรู้ดีว่า ผู้ที่บุกรุกที่ดินในเขตโบราณสถานรายใหญ่ที่สุดคือใคร และอยู่ที่ไหน

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา นายบรรงจง นะแส ผู้นำภาคประชาสังคม (เอ็นจีโอ) ใน จ.สงขลา ได้ทำการตั้งโต๊ะและไลฟ์สด ที่หน้า โบราณสถาน ในพื้นที่ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร โดยเรียกร้องให้ พ.ต.อ.เสรี วุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยนายบรรจง กล่าวว่า คนในพื้นที่ และ เจ้าหน้าที่ต่างรู้ดีว่า ผู้บุกรุกเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ในพื้นที่ชื่อ เจ๊ อ. แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ยังนิ่งเฉยไม่มีการดำเนินการออกหมายจับ ตามคำเรียกร้องของชาว จ.สงขลา ซึ่งหลังจากมีการไลฟ์สด และมีการเผยแพร่คลิปออกไป ปรากฏว่า ได้รับความสนใจ และวิพากษ์วิจารณ์ จากประชาชนใน จ.สงขลาเป็นจำนวนมาก ในขณะที่มีตัวแทนจากประชาชน และจากนักการเมือง ได้นำแจกันดอกไม้ไปให้กำลังใจกับนายพงศ์ธันศ์ สำเภาเงิน ผอ.สำนักงานศิลปากร จ.สงขลา จำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งชื่นชมที่กล้าต่อสู้กับอิทธิพลในพื้นที่

โดยตัวแทนภาคประชาสังคมจังหวัดสงขลา ได้เปิดเผยว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งรับแจ้งความร้องทุกข์จาก ผอ.สำนักศิลปากรที่ 11 จ.สงขลา ยังเพิกเฉย ไม่ดำเนินการจับกุมผู้ทำความผิดในการบุกรุกพื้นที่โบราณสถานมาลงโทษ ชาวสงขลา จำนวนหนึ่งจะเดินทางนำหรีดไปแสดงความอาลัยต่อขบวนการยุติธรรมที่หน้า สภ.สิงหนคร ในวันเสาร์ที่ 12 มี.ค. นี้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ. สงขลา เปิดเผยว่า หลังที่มีการแจ้งความ ทางจังหวัดได้แต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเอาผิดกับผู้ที่ทำการบุกรุกโบราณสถานแล้ว 1 ราย คือนาย สมบัต เหาตะวะนิช ซึ่งรับว่า มีส่วนในการใช้รถตัดถนนเข้าไปในที่ดินของตน ซึ่งเป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ส่วนผู้บุกรุกรายอื่นๆ โดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิงหนคร อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายจับจากศาล จ.สงขลา อยู่ และนอกจากฝ่ายปกครอง และตำรวจที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อหาคนผิดมาลงโทษ คดีนี้ ปปช. ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้มีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่หากพบว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน และนักการเมือง

ในขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้สอบสวนข้อเท็จจริงการการบุกรุกโบราณสถาน เขาแดง ซึ่งเป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของ จ.สงขลา อย่างเด็ดขาด

สำหรับพื้นที่ ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็น ”โบราณสถาน” จำนวน 2,200 ไร่ ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแดง และ เขาเขียว ประกอบด้วยโบราณสถานที่สำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของ เมืองสงขลาที่มีการอนุรักษ์ คือ ป้อมปืนจำนวน 9 ป้อม เจดีองค์ดำ เจดีย์องค์ขาว ประตูเมือง กำแพงเมือง เพื่อป้องกันการบุกรุกในสมัยที่ เมืองสงขลา ยังชื่อว่า เมืองสิงกอร่า มีวัดโบราณอีก 3 วัด คือ วัดเขาน้อย ที่ถูกบุกรุกจากผู้มีอิทธิพลเข้าไป ทำบ่อลูกรัง ในการขุดดินขาย วันสุวรรณคีรี และ วัดบ่อทรัพย์ และที่สำคัญ โบราณสถานที่กล่าวมาทั้งหมด จังหวัดสงขลาอยู่ระหว่างการรวมรวมเพื่อขึ้นทะเบียนเป็น แหล่ง มรดกโลก อยู่ในขณะนี้.