เรียกได้ว่ากำลังเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และพากันถกเถียงอย่างหนักในขณะนี้ ภายหลังสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นนักศึกษา ได้เผยเรื่องราวของตนเองในช่วงฝึกงาน โดยได้โพสต์แชตข้อความที่ได้คุยกับทางผู้บริหาร ซึ่งมีใจความว่า

ทางผู้บริหารอยากให้ถ่ายรูปร่มพังมาให้ดูหน่อย ทางเด็กฝึกงานจึงตอบไปว่า “เอาไปไว้ในห้องเก็บของแล้ว ซึ่งห้องเหม็นมาก ถ้าอยากเห็นว่าร่มพังยังไงให้มาทำเอง คือจัดของแล้วก็ถ่ายรูปเอง” ทางด้านผู้บริหารจึงถามย้ำกลับมาว่า จะให้เขาไปทำเองจริงเหรอ แล้วก็ว่าเธอกับเพื่อน 3 คนไม่ต้องรับแขกก็มาทำเองสิ เรื่องของแผนกคุณไม่ใช่เหรอ

ทางนักศึกษาฝึกงานจึงตอบกลับมาว่า “คุณคิดว่าฉันว่างนักหรือไง” ซึ่งหลังจากเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้น ทำให้นักศึกษาฝึกงานรายดังกล่าวถูกทางบริษัทที่ฝึกงานถูกส่งตัวกลับมาทางมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า เนื่องจากนิสิตไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามระเบียบของทางสถานประกอบการ ในระหว่างการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวกับผู้บริหารของโรงแรมฯ โดยทางมหาวิทยาลัยก็พิจารณาแล้วด้วยว่าให้นักศึกษาไปฝึกใหม่ปีหน้า

อย่างไรก็ตาม นักศึกษารายดังกล่าวได้ออกมาอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “คือเราเคยติดต่อขอเปลี่ยนที่ฝึกตั้งแต่ทำได้อาทิตย์แรกแล้วค่ะ ตอนที่ทางโรงแรมแจ้งก่อนไปฝึกงานคือทำงาน 8 ชั่วโมง แต่พอไปทำจริง ทำ 10 ชั่วโมง หักพักออก 1 ชั่วโมง เหลือ 9 และลักษณะงานที่ทำมันก็ไม่ตรงกับสิ่งที่เรียนมา ตอนเราเลือกที่จะฝึกที่นี่เพราะเขาแจ้งมาว่ามีแผนกนันทนาการ มีกิจกรรมให้ลูกค้าทำ เราไปดูแลตรงนั้น

แต่พอไปทำแล้ว งานเราคือยกร่มกางร่ม หุบร่ม ทำความสะอาดบริเวณสระว่ายน้ำ ร่อนหินออกจากทราย คราดทรายให้เรียบ บางวันไปขัดพื้น ฉีดพื้นด้วยเครื่องแรงดันสูง บางวันไปเสิร์ฟช่วย FB เราไม่โอเคตั้งแต่วีกแรกแล้ว เพราะเราทำ วันที่ 24, 25, 26, 27, 28, 29 และ 31 วีกแรก เราทำงานไป 7 วัน และเลิกงานเกินทุกวัน แต่คณะบอกเหตุผลการขอย้ายไม่มีน้ำหนักเพียงพอ”

ทั้งนี้ ภายหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ต่างก็ทำให้ชาวเน็ตคอมเมนต์เสียงแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายแรกไม่เห็นด้วยที่นักศึกษาฝึกงานรายดังกล่าวแสดงพฤติกกรมที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้ พร้อมทั้งบอกความจริงแล้วมีวิธีการสื่อสาร หรือการพูดที่ดีกว่านี้ ควรจะเลือกใช้การพูดและวิธีที่ดีกว่านี้

ขณะที่อีกฝ่ายต่างเห็นด้วย พร้อมทั้งบอกให้โฟกัสถึงเรื่องที่นักศึกษาฝึกงานที่ถูกกดจากบริษัทที่ใช้งานเกินขอบเขตหน้าที่ และเกินเวลางานปกติ เพราะเด็กฝึกงานบางคนไม่สามารถโต้เถียงเนื่องเป็นช่วงของการฝึกงาน นอกจากนี้ ยังบอกอีกว่าเป็นวัฒนธรรมเก่าของคนไทยที่ควรเปลี่ยนได้ เด็กฝึกงานบางคนต้องทำงานหนัก แถมไม่ได้รับค่าจ้าง หรือค่าล่วงเวลา เหมือนมาทำงานให้พนักงานในบริษัทใช้งานฟรีอีกต่างหาก..